ทักษิณ พูดถึง แพทองธาร ศาสตร์และศิลป์ handle การเมืองที่ไม่ใช่บริษัท

แพทองธาร ชินวัตร กลายเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31

เป็นนายกรัฐมนตรี วัย 38 ปี อายุน้อยที่สุดในทำเนียบนายกรัฐมนตรีของไทย

วันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ “แพทองธาร” เป็นนายกฯ 18 สิงหาคม 2567

ผู้เป็นพ่อ – ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คนที่ 23 ก้าวลงมาจากรถที่อาคารวอยซ์ สเปซ อันเป็นที่จัดพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ “แพทองธาร” ซึ่งยังเป็นว่าที่นายกฯ คนที่ 31 เดินเข้าไปต้อนรับ

ทั้งสองหอมแก้มกันและกัน ยิ้มให้กัน แต่มีแค่ 2 คน ทักษิณ – แพทองธาร เท่านั้นที่รู้ว่านาทีนั้นรู้สึกอย่างไร

ย้อนไป 18 ปีที่แล้ว ทักษิณ โดนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 แพทองธาร ยังเป็น นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

นาทียึดอำนาจ “ทักษิณ” อยู่ที่มหานครนิวยอร์ก แต่เธออยู่ระหว่างขับรถกลับบ้าน เธอถูกตามตัวให้ไปซ่อนตัวที่เซฟเฮาส์ หลบเลี่ยงการถูกควบคุมตัว

ทั้งคู่ผ่านนาทีความเป็น – ความตาย นาทียึดอำนาจ

18 ปี ผ่านมา แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี “ทักษิณ” ร่วมแสดงความยินดีในพิธีโปรดเกล้าฯ

ทักษิณ พูดถึง “แพทองธาร” ผ่านหนังสือ “THAKSIN SHINAWATRA : Theory and Thought” ว่า เธอซึมซับตัวเขาโดยไม่รู่ตัว

อิ๊งค์เขาใกล้ชิดผม บางทีคนเรานะ การได้พูดออกมา มันเหมือนกับการทบทวนให้ตัวเอง ผมก็พูดกับลูกดีกว่าพูดคนเดียว แม้ลูกยังเล็กอยู่ก็พูดกับลูกไป (ยิ้ม) พูดเสร็จเราก็คิดไปในตัวว่าใช่หรือเปล่า เหมือนเราดูหนังสือสอบ เหมือนท่องจำ แต่แทนที่จะไปท่องจำ เราก็พูดออกมา แล้วการพูดคนเดียวมันก็เหมือนคนบ้า (หัวเราะ) เลย พูดกับลูกดีที่สุด

อิ๊งค์เขาก็เลยจำที่ผมพูดได้หมด ตอนที่ลูกได้ฟังเรื่องใหญ่ ๆ ฟังเรื่องระดับประเทศระดับโลก เขาเอฟเฟ็กต์คุณพ่ออย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง

ทักษิณ เล่าถึงเหตุการณ์สมัยตัวเองเป็นนายกฯ และมี “แพทองธาร” ตามติดไปด้วย เธอฉายแวว “คนการเมือง” มาตั้งแต่เด็ก

ตอนนั้นเขาอายุ 12 ผมเพิ่งตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ ๆ ตอนนั้นพาไปที่บางกระทุ่ม พิษณุโลกเป็นหมู่บ้านที่เขาทำกล้วยตาก กลัวยอบแห้ง เครื่องที่ใช้ก็ใช้แสงอาทิตย้อบ เป็น รีเฟลกต์แสงอาทิตย์ ใช้กระจกเงา เหมือนเป็นสเตนเลสเงา จริง ๆ ก็ทำกล้วยตากไม่ใช่อบแห้งอะไรมาก ทีนี้เปลือกกล้วยก็กองเต็มไปหมด เขาก็เอาน้ำ EM ไปโรยเพื่อให้เปลือกกล้วยมันเน่าแล้วจะได้เอา มาทำเป็นปุ๋ย ผมก็ไปเดินดูเขาทำ

อิ๊งค์ก็ไปด้วย แล้วเขาทำตัวเฉยมากไม่มีปฏิกิริยา แต่มันเห็มนมากเลยนะ เสร็จแล้วพอขึ้นรถ ผมก็ถามลูกเหม็นไหม เขาบอก “เหม็นมากพ่อ”

เอ้า แล้วทำไมลูกไม่แสดงปฏิกิริยาว่ามันเหม็น เขาว่า “เอ้า ไปทำอย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็หาว่าเรารังเกียจเขาสิพ่อ”

ทักษิณ บอกว่า เขาไม่เคยสอน “อายุ 12 แล้ว ผมไม่เคยสอน เขาเห็นว่าเราไปทำงานการเมือง เราต้องไปพบกับประชาชน เราต้องมีความอดทน ต้องมีความเข้าใจเขา เขา observe เอาเอง”

“ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ซึมซับจาก ผมเยอะ จริง ๆ ทุกคนซึมซับจากผมหมด ตอนนั้นมีคนคิดกันว่าน่าจะเป็นคนนั้น น่าจะเป็นคนนี้ แต่ผมดูแล้วว่าอิ๊งค์น่าจะซึมซับจากผมเยอะ แล้วสิ่งที่เขาเคยเห็นมาพอถึงวัน สิ่งที่เขาถ่ายทอดออกมา ก็ปรากฏว่าผมไม่ต้องเทรน ไม่ต้องโค้ช อะไรเลย”

“เขาเรียนรู้โดยการสังเกต จำ ความจริงโอ๊คก็เรียนรู้ไปเยอะ แต่โอ๊ค เขามีความเป็นศิลปินมาก แต่การเมือง มันต้องจริงจังนิดนึ่ง”

ทักษิณ เล่าถึงนาทีที่ “แพทองธาร” เข้ามาสู่เส้นทางการเมืองอย่างเป็นทางการเมื่อ 28 ตุลาคม 2564 ในการประชุมใหญ่พรรคที่จังหวัดขอนแก่น ในตำแหน่ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ครั้งแรก

“จริง ๆ แล้ว ผมก็ได้แต่เพียงมองว่า เขาเหมาะ ตอนนี้ถือว่ายังไม่ได้เข้า การเมืองเต็มตัว เพียงแต่เขาสัมผัสดูว่า เขาคิดอย่างไร แล้วตอนวันที่เขาไปพูด ที่ขอนแก่น 28 ตุลาคม 2564 ผมก็รู้สึกประทับใจนะ คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำได้ดี เพราะอายุเขายังน้อยและนี่คือการลงการเมืองครั้งแรก ต้องไปเล่นบทนำ เขาทำได้ดี”

ดูลูกปราศรัยแล้วเห็นตัวเองในนั้นไหม ทักษิณ ตอบว่า “ชัดเลย ผมสะอึกในคอเลย ภูมิใจ แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าอิ๊งค์เขาได้ดีเอ็นเอผมกับแม่ เขาเข้มแข็งเหมือนแม่ และเป็นคนมี ความเป็นผู้นำ มีความกล้า”

“ผมคิดว่าเขาแข็งแรง เขาเดินได้สบาย ผมว่าเขาแข็งแรงแล้ว จิตใจเขาเข้มแข็งด้วย แล้วก็มีปฏิภาณทางการเมืองดี เพียง ยา แต่ว่าชั่วโมงบินในการรู้จักผู้คน เพื่อจะ handle ทางการเมืองยังต้องเพิ่ม คือผู้คน มาทางการเมืองกับผู้คนทั่วไปตามบริษัท ไม่เหมือนกัน การเมืองมันเต็มไปด้วยคนที่มีอีโก้คนละแบบมารวมกัน เหมือนมีมือแซกโซโฟน มีอกลอง มือทรัมเป็ตอะไรต่าง ๆ มารวมกันโดยให้เขาเล่นเพลงเดียวกันให้ได้”

เพราะต่างคนต่างเข้าไปในฮอลล์ปุ๊บ คนนั้นก็เป่า คนนี้ก็ตี จะทำอย่างไรให้เขาเล่นเพลงเดียวกัน แล้ว conduct ให้มัน มี harmony ด้วยกัน กลมกลืนกัน อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็น art and science ในตัวที่ต้อง handle

“ในทางการเมือง นอกจากวงดนตรีแล้วเรากำลังเจอคนฟังซึ่งต่างคนต่างแสดงออก ในขณะที่ฟังเพลงอยู่ ทำอย่างไรถึงจะให้เขาฟังด้วยความเคลิบเคลิ้ม สงบนิ่ง อันนี้ยังไม่พอ ยังมีคนทำข่าว ถ่ายภาพ ด้วย ในขณะที่เราต้องมีสมาธิ คนทำข่าว ก็เปิดแฟลชใส่เต็มไปหมด เราจะ conduct ทุกวินาทีต่อไปให้จบด้วยความไพเราะอย่างไร อันนี้คือ art and science”

เป็นความในใจ ทักษิณ อดีตนายกฯ คนที่ 23

ถึง แพทองธาร นายกฯ คนที่ 31