รบ.ส่งร่างแก้ไขคำสั่งคลายล็อกการเมืองให้กกต.ดูแล้ว คาดประกาศใช้เดือนก.ย.

กกต. ถก”วิษณุ” พรุ่งนี้ เตรียมคลายล็อกคำสั่งคสช. 53/2560 ให้พรรคการเมืองทำไพรมารีโหวตได้ ชงรูปแบบเหลือแค่รับฟังความเห็น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกกต.ว่า ขณะนี้ รัฐบาลได้มีการส่งร่างแก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่53/2560 ที่จะคลายล็อกการดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองให้แก่พรรคการเมืองได้ปฎิบัติในช่วงที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกันยายน มาให้กกต.พิจารณาเบื้องต้น ก่อนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาหารือร่วมกับกกต.ในวันที่ 20 สิงหาคม

โดยเนื้อหาสำคัญในร่างแก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสชที่53/2560 นอกจากจะคลายล็อกให้พรรคการเมืองเดิมที่ดำเนินกิจการอยู่สามารถจัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค หาสมาชิกพรรค จัดตั้งสาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเพื่อเตรียมการในเรื่องการทำไพรมารีโหวต ให้ความเห็นต่อกกต.ในเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้ง และให้อำนาจกกต.ในการออกหลักเกณฑ์และระเบียบให้สอดคล้องกับพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่มีการประกาศใช้และดำเนินการเรื่องของการแบ่งเขตได้แล้ว เรื่องสำคัญคือเรื่องของการทำไพรมารีโหวตซึ่งตามร่างแก้ไขฉบับล่าสุด รัฐบาลเสนอเพียงรูปแบบเดียว คือรูปแบบการรับฟังความคิดเห็น ที่ คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)เคยเสนอก่อนหน้านี้ ซึ่งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรคประกาศ รับสมัครบุคคล และคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติ แล้วจัดทำบัญชีส่งไปรับฟังความคิดเห็นจากสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่รับผิดชอบเขตเลือกตั้งนั้นๆ โดยให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ที่พรรคจะกำหนดขึ้น

ส่วนในระบบบัญชีรายชื่อให้คณะกรรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรค ประกาศ รับสมัคร และคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติจัดทำบัญชีโดยคำนึงถึงผู้สมัครจากภาค และความเท่าเทียมกันของชายหญิง โดยเมื่อรับฟังความเห็นทั้งในแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อไม่เกิน150 คนแล้วให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครพิจารณาตามข้อบังคับพรรค แล้วเสนอให้คณะกรรมบริหารพรรคให้ความเห็นชอบ

อย่างไรตามในประเด็นของไพรมารีโหวตนั้น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. มีความเห็นสอดคล้องกับ กกต.ชุดเก่า ที่เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการปฎิบัติของพรรคการเมือง จึงควรเป็นเรื่องที่รัฐบาลที่จะตกลงกับพรรคการเมือง โดยกกต.พร้อมจะปฎิบัติกฎหมายไม่ว่าจะออกมาอย่างไร

 

ที่มา มติชนออนไลน์