การเมือง

“หม่อมเต่า” ย้อนวันตัดสินใจร่วมพรรค “รอยัลลิสต์”

ก่อนผลการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 จะออกผล ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้เพียง 5 ที่นั่ง

“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนากับ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หรือที่ทุกคนเรียกว่า “หม่อมเต่า” ถึงความคาดหวังในการกระโดดเข้าสู่วงการเมือง และเลือกร่วมหัว-จมท้าย กับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”

ใช้ประสบการณ์กว่า 2 ทศวรรษที่ จรยุทธ์อยู่ในวงการบริหารราชการแผ่นดิน ก่อนจะพลิกบทจากราชนิกุล-สืบเชื้อสายราชวงศ์ในรัชกาลที่ 4 และเทคโนแครตสู่นักการเมืองเต็มตัว

ทุกคำตอบเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง…หวังว่าจะทำการเมืองแบบใหม่ ที่ปักหมุด-เทใจ ให้กับ

Q : หากเปรียบการทำพรรคการเมืองกับการสร้างตึก 1 หลัง ถือว่าตัดขั้นตอนหลายอย่างไปพอสมควร

คุณสุเทพทำพรรคการเมืองมา 37 ปีแล้ว ท่านรู้ว่าหน้าตาจะเป็นแบบไหน ถึงแม้จะเป็นมือใหม่ ตึกใหม่ เด็กใหม่ แต่ผมคัด staff ได้ดีมาก ไม่อยากใช้คำว่าพร้อม พร้อม คือ ทำเป็นแล้ว นี่ไม่ใช่ นี่เป็นดีไซน์แอนด์บิลด์

Q : ทำไมถึงไว้วางใจคุณสุเทพ

ก็ดูโจทย์ เราจะทำอะไรก็ต้องดูว่า ถึงช่วงไหนของอายุ ดูสถานการณ์ ผมก็รู้ดีว่าเขาต้องทำอันนี้ให้ดี ให้ได้ เขาเป็นคนมีประสบการณ์ เราเข้ามาก็ง่าย ผมจึงเข้ามาทำ

Q : มีเป้าหมายทางการเมืองชัดเจน

ที่ทำวันนี้เป้าหมายชัดเจน แต่บางอย่างก็พูดไม่ได้

Q : เป็นพรรคฝ่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่างจากคนอื่นอย่างไร

ไม่อยากพูดว่าดีหรือเลวกว่าคนอื่นแตกต่างหรือไม่เป็นเรื่องที่คนอื่นจะเป็นคนเห็น อย่างวันที่เริ่มเดินหา
สมาชิกก็ไปไหว้อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ซึ่งไม่มีใครทำอย่างนั้น เหมือนเป็น signal ที่จะบอกว่าความสำคัญ
ของเราเป็นอย่างไร

Q : เห็นอะไรถึงชูเรื่องสถาบันเป็นประเด็นหลัก

พรรคนี้เดินมาไกลกับกำนันสุเทพ ครั้งการชุมนุม กปปส.ก็เรื่องนี้ นี่ไม่ใช่ กปปส.นะ แต่เป็นทุติยภาค ต่อจากการเดินชุมนุมของ กปปส. ฉากที่สอง ซึ่งไม่เปลี่ยนจากฉากที่หนึ่ง…ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า royalist

Q : คุณสุเทพพูดว่าเป็นพรรคที่ต่อต้านและขจัดระบอบทักษิณ

เท่าที่ผมดู ระบอบทักษิณอาจจะไม่ต้องต่อต้าน แต่อาจตายไปเอง เพราะขณะนี้กฎหมายก็เดินไป คนติดคุกแล้ว สภาพของกฎหมาย สภาพของทหาร ณ จุดนี้ไม่ได้มีอันตรายอะไรทั้งนั้น

Q : Key Message อะไรเพื่อให้คนสนับสนุนพรรค

ร่วมกันเราทำได้

Q : นโยบายเศรษฐกิจแบบไหนที่คิดว่า ร่วมกันแล้วจะทำไปได้เพื่อประเทศ

ผมอยากให้มีการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยเกิดขึ้น research มี 2 ประเภท ได้แก่ pure research และ 2.apply research เวลานี้ R&D ของประเทศไทย 0.5 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี ประเทศใดก็ตามไม่มีทางพัฒนาได้สำเร็จ ถ้าหากไม่มีการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา 1-2 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีขึ้นไป

Q : ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สอดคล้องกับนโยบายของพรรคหรือไม่

อ่านยากนะ คุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ยังบอกผมเลยว่า อ่านได้แค่ 5 หน้านั้นเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ท่าน (อภิสิทธิ์) ก็เป็นคนที่ผมนับถือว่าฉลาดที่สุดแล้ว เขาได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ผมได้แค่ที่ 2 โรงเรียนแบบเดียวกัน

ท่านบอกว่าได้แค่ 5 หน้าเอง ไม่อยากบอกว่าเกิดอะไรขึ้น พอท่านบอกว่าอ่านได้ 5 หน้าเท่านั้น ผมดีใจรีบวิ่งไปซื้อมาเลย ไม่ต้องพูดต่อ (หัวเราะ)

Q : คุณชาย อ่านได้กี่หน้า

ก็นี่ไง ผมไม่พูดต่อ…ผมถูกให้มาทำงานที่ผมไม่ถนัดหลายด้าน การเมืองต้องนิสัยดี ตอนนี้ไปหัดยิ้มมาแล้ว ให้ทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ แต่ไม่มีวันเก่งกว่าคนอื่น เอาแค่ minimum เอาแค่ใช้ได้

Q : ต้องฝืนตัวเอง เป็นตัวเองน้อยลง

ผมเป็นคน very target oriented ถ้ารับแล้วก็ต้องดูว่า หนึ่ง ทำได้ไหม สอง เป้าหมายและวิธีการคืออะไร

Q : ชื่อคุณชายจะเป็น 1 ใน 3 ที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค

เราอาจไม่เสนอชื่อคนที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรี

Q : เพราะอะไรถึงไม่เสนอ

เป็นไปตามเป้าที่เราต้องการ หนึ่ง ร่วมกันเราทำได้ ถ้าร่วมกันแล้วแต่แข่งกับเขา ไม่ใช่ร่วม

Q : ถ้ามีคนโหวตให้คุณชายเป็นนายกฯก็ไม่ได้

ได้ กฎหมายเขียนไว้หลากหลายวิธี เป็นรัฐธรรมนูญที่คนเขียนอยู่ในอำนาจและคิดอยากจะอยู่ต่อ เป็นเรื่องปกติ

Q : คุณสุเทพไม่ได้พูดว่าจะชูคุณชายเป็นนายกฯ

ครับ

Q : แต่ชู พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ

ไม่ได้ชูใคร ผมไม่ได้ไปดูว่าคุณสุเทพพูดอะไรบ้าง เพราะเวลามาชวนผมก็บอกว่าจะต้องทำอะไร มีข้อตกลงตามนั้น ส่วนท่านจะไปทำอย่างอื่นก็เรื่องของท่าน เพราะไม่ได้อยู่ในการควบคุมของผม ต่างคนก็ต่างทำ เขาสั่งอะไรผมไม่ได้ ผมก็สั่งอะไรเขาไม่ได้ ถ้าผมเห็นด้วยผมก็ช่วย ขึ้นรถเมล์คันเดียวกัน เมื่อไหร่เราอยากไปทางอื่น เราก็คงต้องโดดลงจากรถมั้ง

Q : ต้นทุนใหญ่ในการเมือง คือ อะไร

คือ อดตอบเจ๋ง ๆ (หัวเราะ) แต่เรารู้ very target oriented ต้องไม่สร้างศัตรู ต้องระวังตัว เป็นต้นทุน คิดอยู่แล้วตั้งแต่รับ OK ต้นทุนนี้ใหญ่นะ จะไปเที่ยวปากจัดไปเรื่อย ๆ ไม่ได้

Q : การตอบแบบอดีต Productive กว่า

productive แต่สำหรับประเทศ นักการเมืองทำไม่ได้ ทางการเมือง คือ ร่วมกัน บินเดี่ยว สร้างศัตรูไม่ได้ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยจิตใจมาก ไม่เป็นธรรมชาติ เพราะคราวนี้ไปรับงานเขามาต้องทำตาม job

Q : เป้าหมายในใจที่มองเห็น คืออะไร

หนึ่ง เป็นคนไม่ชอบอยู่เฉย ๆ สอง แก่แล้ว อยู่เมืองไทยมานานแล้ว อยากเห็นเมืองไทยเจริญ ถ้ามีโอกาสทำอะไรได้ก็น่าจะทำ มีโอกาสทำอะไรทิ้งไว้ให้สุเทพใช้ instinct คนเยอะมากที่ใช้ instinct ลูบ ๆ คลำ ๆ แล้วไปถูกที่ แต่ผมใช้ logic ค่อย ๆ นั่งคิด จนคิดออก คิดออกแล้วถึงทำ

Q : วัฒนธรรมของพรรคนี้ คือ ร่วมกันเราทำได้ ทุกคนจึงสงวนจุดต่าง

เราพร้อมที่จะร่วมกับคนอื่น รัฐธรรมนูญเขียนวิธีนับคะแนน ต้องมีหลายพรรค

Q : สุเทพบอกว่า พรรคนี้จะได้เป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน

จะขอเป็นมั้ง…จะขอเป็น เพราะเรารวมกันหลายพรรคแล้วก็คงไม่ชนะ พรรคนี้ไม่น่าจะเป็นพรรคที่ critical แต่อย่างน้อยมีเจตนารมณ์ที่จะเข้าไปช่วยประเทศ พวกเราแก่กันหมดแล้ว ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลเที่ยวนี้ก็ไม่ได้ช่วยแล้ว

Q : เนื้อเสียงของพรรคที่ร่วมรัฐบาล

ตอบไม่ได้และไม่อยากตอบ แต่ละคนที่อยู่ในพรรคนี้ต่างมาคนละแบ็กกราวนด์ ยังไม่รู้ว่าเราจะได้ 1 คน หรือ 50 คน ยังไม่รู้ว่า พรรคที่เราบอกว่า จะร่วมด้วยหรือไม่ร่วมด้วยจะได้ 50 คน หรือ 100 คน อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นตัวเลขตั้งแต่ 170 จนถึงเหลือไม่ถึง 70 แล้วแต่ใครจะพูด ก็รอดูคะแนนดีกว่า

ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าคนที่ได้จะชนะได้คะแนนเท่าไร มีพรรคต้องเยอะแยะ 6 คน 10 คน ที่เรียกว่า local political ยังไง ๆ ก็ชนะ เขาสร้างสนามบินตั้ง 6,000 ไร่ในจังหวัดส่วนตัว คนอย่างนั้นแพ้เลือกตั้งไม่ได้หรอก เพราะเขาต้องยิ่งใหญ่ในนั้น

Q : คะแนนครั้งนี้จะพลิกโฉมไปจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 หรือไม่

ไม่ล่ะครับ นี่เป็นการเลือกตั้งคนละชนิด ไม่อยากพูดถึงเรื่องพลิกโฉม แต่ไม่น่าจะเกิดผลแบบเดิมได้ เพราะเขาตั้งใจทำให้มีพรรคมาก

ในรัฐธรรมนูญเขียนว่า 2 เดือนต้องตั้งรัฐบาลได้ ถ้าไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น ผมเข้าใจว่ารัฐบาลเดิมก็ต้องอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ เป็นลูกผีลูกคน จนกว่าจะตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จเพราะรัฐธรรมนูญไม่มีบทลงโทษ

Q : สู้กัน 2 ฝ่ายระหว่างฝ่ายนายกฯ คนปัจจุบันกับฝ่ายประชาธิปไตย

พวกหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลกับอีกพวกหนึ่งรัฐบาลอยากเป็นต่อ มันก็จะมี conflict กัน พวกที่ไม่เห็นด้วยกับเห็นด้วยกับระบบรัฐธรรมนูญนี้ แต่อยากเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่รัฐบาลไม่ได้อยากออก จึงมีพวกที่นายกฯอยากอยู่ กับพรรคที่อยากอยู่กับนายกฯ และพรรคที่ไม่อยากอยู่กับนายกฯ ไม่อยากให้นายกฯอยู่ ทีแรกเหมือนท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) อยากออก แต่ดูไปยิ่งคิดว่าอยากอยู่

Q : อยากอยู่แล้วอยู่ได้หรือไม่

ต้องรอนับคะแนน มีอีกหลายคนที่เราไม่ได้นับ ใครนับได้ 250 คะแนน คนนั้นชนะ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปีต้องตราเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โดยใช้คะแนนเสียงข้างมากในสภาล่าง

Q : สิทธิ์ชี้ขาดว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ที่สภาล่าง หรือสภา ส.ว.

อืม…ผมว่า ส.ว.เกือบไม่มีบท… รัฐธรรมนูญชี้ไปผิดทาง เขียนตั้งใจอย่างนั้น เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ยอมเขียนอย่างนั้น แต่ถ้าเขี ยนว่า ได้เป็นนายกฯแล้ว ทำ พ.ร.บ.งบประมาณได้โดยไม่ต้องผ่านสภา ก็โอเค… (เสียงสูง) จบ แต่นี่บอกต้องเข้าสภา ใช้ ส.ส. 250 เสียง ใครจะกล้าเป็นนายกฯ เป็นได้อาทิตย์เดียว สภาล่างไม่ผ่านงบประมาณ รัฐบาลลาออก