ส.ส.อีสาน-ลูกมุ้งสุดารัตน์ เขย่าเพื่อไทย เล่นละครพรรคแตกรอบที่ 3

สุดารัตน์_เพื่อไทยแตก_ปกใน

ส.ส.พรรคเพื่อไทย สายอีสาน-สายคุณหญิงสุดารัตน์ เล่นละครเขย่าพรรคแตก วนฉายหนังม้วนเดิม ครั้งที่ 3 ในรอบปี

ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวพรรคเพื่อไทย งัดข้อในพรรค แตกแล้ว – แตกอีก ตั้งแต่ก่อน-หลังเลือกตั้ง

ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ ปรากฏข่าวว่า ส.ส. อีสานเพื่อไทย “บอยคอต” จะไม่เข้าประชุมพรรค

เป้าหมายประท้วงหยุดงานคือการบริหารงานของคณะผู้บริหารพรรค ที่มี  “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรค และ  “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค มี “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” เป็นเลขาธิการพรรค

ปฐมบทการแตกรอบล่าสุด แหล่งข่าว อีสานที่ไม่เข้าร่วมประชุมพรรค รายงานว่า มีการนัดหมายผ่านไลน์เมื่อวันศุกร์ 18 กันยายน ที่ผ่านมา เพราะความน้อยใจของ ส.ส.อีสาน ซึ่งมีบ้างเป็นปกติในการทำงาน โดยมี ส.ส.ประมาณ 10 กว่าคน ที่เลือกจะอยู่ทำงานที่สภา และมีส่วนก็ลงพื้นที่เตรียมงานของคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ที่จะจัดสัมมนาช่วงปลายปีงบประมาณ แต่ไม่ขอบอกว่าใครเป็น “ตัวตั้ง ตัวตี”

ขณะที่กระแสข่าวอีกด้านหนึ่งระบุว่า ส.ส.ที่ร่วมบอยคอต ไม่พอใจที่พรรคกลายเป็นพรรค “อีเวนต์” ทำตามกระแสการเมือง ทั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ มีประสบการณ์ แต่ไม่มีการทำงานเชิงรุกทางการเมือง ปล่อยให้คู่แข่ง “ก้าวไกล” ปาดหน้า ชิงธงนำประชาธิปไตย โดยเฉพาะเกมแก้รัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่มีกระแสข่าว “พรรคแตก”  ที่บ้านย่านลาดปลาเค้า ของ “คุณหญิงสุดารัตน์” ก็จัดงานทำบุญ เจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเพลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ นายสมพล นางเรณู เกยุราพันธุ์ โดยนิมนต์ พระภิกษุ จำนวน 9 รูป ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์

ในทางหนึ่งเปิดประตูต้อนรับ ส.ส.ที่อยู่ในเครือข่าย กว่า 80 คน สำแดงพลัง มีทั้งสายใกล้ชิดแนบแน่นแบบไปไหนไปด้วย และสายห่างที่ทำทีเป็นใกล้ชิด

ส่องบุคคลที่ร่วมงาน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข พ่วง ส.ส. – ส.ก. – ส.ข.กทม.

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรค นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผู้อำนวยการพรรค นายวัน อยู่บำรุง นางบุญรื่น ศรีธเรศ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม นายไพจิตร ศรีวรขาน นายประเสริฐ บุญเรือง นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ นายนิยม เวชกามา

นายนิยม ช่างพินิจ นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ นายพัทนา สัพโส นางสาวสกุณา สาระนันท์

นายคมเดช ไชยศิวามงคล นายจตุพร เจริญเชื้อ นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร นายบัลลังก์ อรรนพพร นายนิรมิต สุจารี นายสุชาติ ชาญประดิษฐ์ นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ นายบุญถิน ประทุมลี นายสยาม หัตถสงเคราะห์ นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ นายโกศล ปัทมะ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังประกาศความ “มุ่งมั่น – เป็นเอกภาพ” รับใช้ประชาชนทั้งใน – นอกสภา

ภาพ “พรรคแตก” ควบคู่กับการ “แสดงพลัง” การเมืองของ คุณหญิงสุดารัตน์ และทีมงานในเวลาใกล้ ๆ กันมิใช่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

แต่เกิดขึ้นตั้งแต่ข้ามเส้นปี 2562 มาเป็น 2563 หลังปรากฏว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ประกาศลาออกทุกตำแหน่ง ลดบทบาทในพรรคเมื่อ 6 มกราคม 2563 วันรุ่งขึ้น “คุณหญิงสุดารัตน์” เปิดบ้านจัดงานเลี้ยงขอบคุณทีมงาน ส.ส ที่ช่วย สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่นวันที่ 22 ธันวาคม 2562 แสดงพลังกันครั้งแรก

“ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวดังกล่าวออกมา แต่มีการทำเช่นนี้หลายครั้งแล้วนับตั้งแต่ เข้ามาทำงานและมีตำแหน่ง ก็ไม่รู้ว่าไม่ชอบอะไรดิฉัน คงต้องการจะทำให้ดิฉันเสียหาย แต่มันกลับทำให้พรรคเพื่อไทยเสียหายด้วย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวในวันนั้น

หลังจากโควิด -19 เล่นงาน ข่าวพรรคแตกในเพื่อไทยก็ซาลงไป ทว่ากลับปะทุขึ้นมาใหม่หลังจาก อดีตขุนพลทักษิณ ชินวัตร ประกาศตั้ง “กลุ่มแคร์” ขึ้นมา หนึ่งในนั้นมีชื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ปลีกตัวจากพรรคไปก่อตั้งกลุ่มแคร์ด้วย

กระทั้ง 9 มิถุนายน 2563 มีการเขี่ยลูกในที่ประชุมพรรค เปิดช่องให้ ส.ส.เพื่อไทย ถล่มกลุ่มแคร์ยับเยิน

“ไพจิตร ศรีวรชาน” ส.ส.นครพนม เพื่อไทย กล่าววันนั้นว่า “สิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุด มีพวกเราที่จะออกไปบอกว่า ส.ส.อีสานหมดน้ำยา ความจริงจะไปที่ไหนก็เชิญมาคุยกันในที่ประชุมให้ถ่องแท้ว่า ถ้าเพื่อไทยอยู่ไม่ได้ ต้องไปสร้างพรรคใหม่ก็ขอให้ไปดีอย่ามาสร้างความเสียหายให้กับพวกตน เพราะเรายังมีความหวังว่าเพื่อไทยจะกลับมาได้ คนอื่นจะมาอย่างไรก็ไม่มีใครออกจากพรรค อย่าได้สร้างความสับสนให้ประชาชน”

“ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็ให้แจ้งกัน ก็ไม่ติดใจ แต่มันเสียความรู้สึก เจรจากันเสีย วันนี้อยากเชิญเข้ามาฟังด้วยว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ จะได้ทำใจกัน ถ้าจะอยู่ควรอยู่อย่างไร”

ด้าน “วัฒนา เมืองสุข” กล่าวว่า “ไม่แปลกที่เพื่อนไปตั้งกลุ่มใหม่ เพราะเหตุของรัฐธรรมนูญ แต่ความแปลกคือไปแล้วทำลายที่นี่ คำพูดของคนที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่นี่ บอกว่าเพื่อไทยไม่ได้เป็นความหวังของประชาชน ใช้ไม่ได้ เห็นแก่ตัว เพราะยังอาศัยอยู่พรรคนี้”

“ถ้าไม่มีความศรัทธาความเชื่อมั่น ก็ควรจะไป ตำแหน่งทางการเมืองก็ควรจะสงวนไว้กับคนในพรรค พรรคเพื่อไทยอาจไม่หวือหวา ไม่เป็นมาเซราติ แต่เป็นรถเบนซ์แน่นอน อะไรที่กระทบกับพรรคต้องกำจัดออก และคนที่จะไปก็ไม่ได้หวังว่าเพื่อไทยจะโต เพราะถ้าที่นี่โต ที่จะไปก็ไม่โต เป็นเรื่องปกติที่ต้องการไม่ให้เพื่อไทยโต เพราะน้ำบ่อเดียว ผลประโยชน์ขัดกัน”

รุ่งขึ้น 10 มิถุนายน 2563  “สมพงษ์ – คุณหญิงสุดารัตน์” จึงแท็กทีม นัด ส.ส.อีสาน แถลงข่าวสยบข่าวลือพรรคแตก

“เราสองคนทำงานกันอย่างกลมเกลียวและจริงจัง แต่แน่นอนว่าการทำงานย่อมติดขัดกันบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่และแก้ไขได้ ผมทำงานประสานกับคุณหญิงสุดารัตน์โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น” นายสมพงษ์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าว

ขณะที่ “คุณหญิงสุดารัตน์” กล่าวในวันนั้นว่า ข่าวที่ออกมาทำให้พวกเราไม่สบายใจ เป็นแหล่งข่าวที่ออกมาและทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชนและพรรคเพื่อไทย ส.ส.ทุกคนทำงานหนักในช่วงโควิดแม้สภาจะปิดก็ตาม ทำงานภายใต้หัวหน้าสมพงษ์อย่างเข้มแข็ง ดังนั้น เราไม่สบายใจกับข่าวที่เกิดขึ้น อยากทำความเข้าใจกับทุกคน

ต่อมาไม่นานมีการประชุมสามัญประจำปี พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีการ “ปรับโครงสร้างพรรค” ใหม่ เอาคนรุ่นใหม่มาประจำการใน “คณะกรรมการบริหารพรรค” ให้มากขึ้น ลดสัดส่วนพวก “ขิงแก่” ออกไป

แต่ปรากฏว่า ติดปัญหาที่ตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” ของ “สมพงษ์” ที่ผูกโยงกับหัวหน้าพรรค หาก “ลาออก” เพื่อปรับโครงสร้างใหม่ จะทำให้กระทบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน

หาก “สมพงษ์” ไม่ลาออก สัดส่วนกรรมการบริหารพรรคจะมีอยู่เท่าเดิม ไม่สามารถปรับสัดส่วนได้ ที่สุดแล้วกรรมการบริหารพรรคจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จะมีการประชุมปรับโครงสร้างกันใหม่อีกครั้งไม่ไกลจากนี้

แล้วก็มาถึงคิว “พรรคแตก” รอบที่ 3 ของปี เมื่อ ส.ส. สายอีสาน บอยคอต ไม่เข้าร่วมประชุมพรรค

ขณะที่อีกด้าน “คุณหญิงสุดารัตน์” เปิดบ้านให้ 80 ส.ส.ไปรวมตัวกันในงานบุญ

ข่าวพรรคแตก-รอยแยกระหว่าง 2-3 ขั้วในพรรคเพื่อไทย เขย่าดังไกลไปถึงใจกลางนครดูไบ