ย้อนพิธีกรรม “ขับงูเห่า” เพื่อไทย จากเพื่อนเนวิน ถึง พรพิมล-ศรัณย์วุฒิ

พรรคเพื่อไทย แกนนำฝ่ายค้านพยายามสกัดเนื้อแท้ ผูกมัด ส.ส.ที่จงรักภักดีอยู่ต่อไปกับพรรค แล้วแยกปลาออกจากน้ำ ปฏิบัติการให้ ส.ส. “งูเห่า” พ้นจากพรรค หรือไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า

ขับออก-ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ดีกรีตามนิตินัยแม้ดูเหมือนต่างกัน แต่ปลายทางสุดท้ายไม่ต่างกัน เพราะจะไม่ได้สวมเสื้อคลุมเพื่อไทยลงเลือกตั้งในครั้งต่อไป

การนัดลงมติลงโทษ 7 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรค ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม-3 กันยายน และลงมติในวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา จึงเกิดขึ้น

ย้อนความไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมพรรคมีมติ ต่อ ส.ส 7 คน แบ่งเป็น 4 แนวทาง

1.ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค 2 ราย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ที่มีพฤติการณ์พูดกล่าวร้ายให้พรรค พท.ทำให้พรรคเกิดความเสื่อมเสีย และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวไม่เคยร่วมประชุมและทำกิจกรรมพรรคเลย รวมถึงโหวตสวนมติพรรคอยู่ตลอด

2.ภาคทัณฑ์และใช้เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาส่งลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า 3 คน นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี

3.ว่ากล่าวตักเตือน 1 คน คือ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี และ 4.ยังไม่สามารถพิจารณาใด ๆ ได้ คือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก เพราะระบุเหตุผลที่หายตัวตอนโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็นโควิด-19 และไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงต่อทางพรรคได้

ก่อนจะส่งให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคพิจารณา และวันที่ 12 ตุลาคม พรรคเพื่อไทยลงมือเชือดงูเห่า !

นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปีเศษ ที่พรรคเพื่อไทย มีพิธีกรรมลงมติลงโทษ-ขับ ส.ส.งูเห่า

หลังจากก่อนหน้านี้ มี “งูเห่า” แหกคอกแค่ 2 ตัว ไม่นับ “บิ๊กลอต” ที่ถูก “พลังดูด” ล่อใจถอดเสื้อคลุมเพื่อไทย ย้ายไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ งูเห่า 2 ตัวนั้น คือ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และ และ นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร ในช่วงพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน แต่กลับไปปรากฏตัวอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย

เรื่องราวการขับ “ร.ต.ปรพล-จุมพฏ” ออกจากพรรคเพื่อไทย ยืดเยื้อยาวข้ามปี หลังจากที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีมติให้คณะกรรมการบริหารพรรค ตัดสินลงโทษเมื่อ 11 มิถุนายน 2552 โดยให้ขับ ส.ส.ทั้งสองคนออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

กระทั่งอีก 1 ปีต่อมา 7 มิถุนายน 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ก็มีมติขับ 2 ส.ส.พ้นพรรคเพื่อไทย ในข้อหาทำผิดระเบียบข้อบังคับพรรคการเมืองอย่างร้ายแรง ขาดการประชุมพรรคเป็นเวลานาน ไม่เข้าร่วมในกิจกรรมของพรรค ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น อย่างเปิดเผย

ต่อมา 7 กันยายน 2553 ที่ประชุมจึงมีมติ ขับ “ร.ต.ปรพล-จุมพฏ” ออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

ปัจจุบัน ร.ต.ปรพลเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และเป็นที่ปรึกษา รมว.ดีอีเอส ในยุค “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” เป็นรัฐมนตรี ส่วน “จุมพฏ” ได้ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.สกลนคร เมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 ในนามภูมิใจไทย แต่สอบตก หลังจากนั้นไม่อยู่ในสารบบการเมืองอีกเลย

ส่วน “งูเห่า” ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับพรรคเพื่อไทย-นายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร คือ งูเห่า 23 คน ของกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ “เปลี่ยนขั้ว-ย้ายข้าง” ทำให้พรรคเครือข่ายทักษิณ ที่อยู่ดี ๆ จากเป็นรัฐบาล กลายเป็นฝ่ายค้านชั่วพริบตา คือกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มีแกนนำคือ “เนวิน ชิดชอบ”

เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากการยุบพรรคพลังประชาชน ที่ในเวลาต่อมาแปลงสภาพเป็นพรรคเพื่อไทย โดย 23 ชีวิตของกลุ่มเพื่อนเนวิน แยกตัวจากพรรคพลังประชาชน มาจับมือกับ 8 ชีวิตของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เปิดตัวพรรคภูมิใจไทย เมื่อ 14 มกราคม 2552 มีสมาชิกรวมกันในวันนั้น 31 เสียง ร่วมรัฐบาลประชาธิปัตย์

กลายเป็นปฏิบัติการ “แก้แค้น” แม้งูเห่าเพื่อนเนวิน ไม่ถูกขับออกด้วยมติพรรคตามนิตินัย แต่ก็ถูกบีบให้จนมุม

เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนเนวิน กุมอำนาจการนำในพรรค แต่ถูกกลุ่มเครือข่ายทักษิณ ดัดหลังในเกมชงชื่อนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ที่มีกลุ่มเพื่อนเนวินให้การสนับสนุนหลัก กลับมาเป็นนายกฯรอบสอง

จากวันนั้นถึงวันนี้และแล้วตำนานงูเห่าเพื่อไทยเกิดขึ้นอีกคำรบและยังมีงูเห่าอีกหลายตัวในเพื่อไทย ที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะแต่เพื่อน ส.ส.ในเพื่อไทยด้วยกันรู้ชื่อกันดีที่จะไปอยู่ทั้งพลังประชารัฐ-ภูมิใจไทยไม่เว้นพรรคใหม่ของบิ๊กฉิ่ง ฉัตรชัย พรหมเลิศ