การเมือง

“แพทองธาร” ไพ่ไบใหญ่ “ทักษิณ” เดิมพันเพื่อไทย ลุ้นชนะแลนด์สไลด์

รายงานพิเศษ

“พรรคเพื่อไทย” ประกาศ disrupt ตัวเองอีกหน ภายหลังเปิดแคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ปักหมุดเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเต็มรูปแบบ

หลังจากเคยประกาศมาแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ตอนคิกออฟโครงการ Change Maker ดึงเอาอดีตมือทำงาน-มันสมอง ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี-พี่โทนี่ ในคลับเฮาส์ เข้ามาถือหางเสือพรรค

งานนี้งานใหญ่กว่าทุกครั้ง เพราะเป็นการเปิดประตูการเมืองอย่างเต็มตัว ครั้งแรกของ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวคนเล็กของพี่โทนี่-ทักษิณ ชินวัตร เข้ามานั่งเป็นที่ปรึกษาพรรค แม้เธอจะยืนยันว่า ไม่ใช่นักการเมือง

“ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่ทำงานในฐานะที่ปรึกษาพรรค จะมาทำด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ มาด้วยหัวใจที่อยากจะผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสที่มากขึ้นกว่านี้ ส่วนโอกาสที่จะมาทำงานการเมืองต่อหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ขอเป็นที่ปรึกษาพรรค และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”

“นี่คือก้าวแรกที่ได้เป็นที่ปรึกษาก็ยังตื่นเต้น กลัวทำได้ไม่ดี ขอเอาตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างอื่นไว้ทีหลัง”

อุ๊งอิ๊งแคนดิเดตบัญชีนายกฯใหม่ ?

ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เธอขอลุยงาน 3 เรื่อง ตั้งใจจะเข้ามาปฏิรูปใน 3 เรื่อง คือ การศึกษา เทคโนโลยี และส่งเสริมเรื่อง soft power เป็นความคิดที่เสนอให้พรรคไปทำงานต่อเป็นกลุ่ม เป็นทีม

ส่วนการเป็นแคนดิเดตนายกฯ เธอพูดว่า “ยังค่ะ คิดว่าขอทำตรงนี้เพื่อดูตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร และเสียงตอบรับของคนในพรรค ไปไหนเราก็ทำงานร่วมกันเป็นทีม ทีมเวิร์กเป็นหลัก”

ถามย้ำว่า ถ้ากระแสตอบรับในพรรคดี ก็พร้อมจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ตอนนั้นให้สื่อมาสัมภาษณ์อีกที”

ไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ เรื่องจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ แพทองธารกล่าวว่า “เมื่อถึงเวลาของอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคตไป ตอนนี้ขอทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เต็มความตั้งใจ แค่นั้นก่อน”

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงของพรรคเพื่อไทยมองว่า การดึง น.ส.แพทองธารมา ก็มีภาพของคนรุ่นใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯ แม้คนอาจจะมองได้แบบนั้นก็ตาม

เมื่อมีการเปิดตัว “แพทองธาร” สปอตไลต์การเมืองจากที่เคยส่องไปที่ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” หรือ “พงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ลูกเขยนายทักษิณ ว่าที่สุดแล้วจะมานำพรรคเพื่อไทยคนใหม่ในอนาคตหรือไม่ ก็ย้ายหันไปที่ “แพทองธาร” ทันที

แหล่งข่าวเพื่อไทยใกล้ชิดนักการเมืองสายชินวัตร จำแนกโอกาสของทั้งอุ๊งอิ๊ง-พงศ์ และเศรษฐา ทวีสิน ว่า ในกรณีของ “พงศ์” ไม่มีความเป็นนักการเมือง และภรรยา คือ “พินทองทา ชินวัตร” ลูกสาวคนรองของนายทักษิณ ไม่ต้องการให้เกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องการให้ทำธุรกิจอสังหาฯของตระกูลชินวัตรต่อไป

เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ให้เสียงภาษาไทยในพรรคเพื่อไทยระบุว่า “แม่ยาย ไม่ยอมให้มา” จึงต้องตัด ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ออกจากบัญชี

ขณะที่ชื่อเศรษฐา ที่ยังแบ่งรับ แบ่งสู้ และมีเงื่อนไขหลายอย่างในกระบวนการเจรจา และข้อเสนอของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้เจ้าของพรรค ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาเพิ่มเติม

ชื่อแพทองธาร จึงเบียดส่งขึ้นสู่ที่สูง ในวาระก่อนการประชุมใหญ่จะคิกออฟ

อ้วน เชิดชู เป็นทรัพยากรพรรค

“ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค หัวเรือใหญ่ในการรีโนเวตเพื่อไทย ประเมินสถานการณ์ ภายหลังปรากฏตัวของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร อาจมีเสียงวิจารณ์เรื่อง เพื่อไทย หนีความเป็น “พรรคครอบครัว” ไม่พ้น ว่า “ไม่มีหรอกแล้วแต่เลย อยู่ในวิจารญาณของแต่ละบุคคล ก็นี่เป็นทรัพยากรของพรรคเพื่อไทย”

ส่วนการปรับขบวนการทำงานทั้งหมด แนวคิด ตัวบุคคลในการเริ่มต้น และสานต่อประสบการณ์เดิม เพื่อเตรียมจะบอกว่า เรากำลังขบคิดเรื่องใดบ้าง เรากำลังพาสังคมไทยไปทางไหนบ้าง และปรับขบวนของเราเป็นอย่างไร จากวันนี้ต้องบอกว่า เพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะรับฟังความคิดเห็นทางการเมืองทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น

Linking Pin ภารกิจหัวหน้าใหม่

นอกจากเปิดตัว “แพทองธาร” แย้มนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง อาทิ สานต่อรถไฟฟ้าความเร็วสูง เดินหน้าเชื่อมหัวเมือง, ธนาคารท่องเที่ยว ฯลฯ

เพื่อไทยยังมีการเปลี่ยนเก้าอี้หัวหน้าพรรคใหม่ จาก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” เป็น “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย หลายสมัย ตั้งแต่ไทยรักไทยพลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย พร้อมกับปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ โดยคนหน้าเก่าอย่าง กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ก็ถูกถอดออกจากฉากไปอยู่เบื้องหลัง

ทั้งนี้ ที่ “สมพงษ์” ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับสุขภาพอย่างที่ข่าวปรากฏ เพียงแต่พรรคเพื่อไทยต้อง “รีแบรนด์” ตั้งแต่หัวจดปลายเท้า จึงต้องการคนรุ่นกลาง ที่เชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ เอื้อมมือแตะกับคนรุ่นเก่าได้

นับจากนี้ บุคลากรเพื่อไทย อาจต้องปรับเปลี่ยนการแต่งตัวให้ทันสมัย ใส่กางเกงยีนส์ ร้องเพลงแรป ทำนองเดียวกับที่เคยปรากฏใน “พรรคไทยรักษาชาติ”

“นพ.ชลน่าน” หัวหน้าพรรคคนใหม่ รู้ตัวแล้วว่าเป็นคนที่ถูกเลือก-ไม่ปฏิเสธ และยินดีรับตำแหน่ง ในฐานะที่เป็น ส.ส.ไทยรักไทย ยุคตั้งต้น ปี 2544 หลังจากเพื่อไทยดิสรัปต์-รีแบรนด์แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือจุดแข็งของเพื่อไทยคือปัจจุบัน สิ่งที่เรากำลังมองไปข้างหน้า อนาคตที่จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการตั้งพรรค เรามองว่าถ้าเราไม่ทำอะไรจะเป็นจุดอ่อน ต้องหาจุดเชื่อมระหว่าง 3 กลุ่ม คือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต

“พรุ่งนี้…เพื่อไทย เพื่อชีวิตที่ดีของประชาชน มีคนโกรธว่าคำว่าพรุ่งนี้ในแคมเปญของเพื่อไทย เป็นการผัดวันประกันพรุ่ง แต่สิ่งที่เพื่อไทยเราเซต 3 จุดเชื่อมให้ได้ เราจะทำพรุ่งนี้ให้เป็นปัจจุบันให้ได้ เราสามารถตอบให้ได้ว่าพรุ่งนี้คนไทยจะเป็นอย่างไรในปัจจุบัน ตอบ ณ ปัจจุบันให้ได้ว่าคืออะไร”

“เราใช้อดีตเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียน อะไรที่ดี ๆ อยู่แล้ว จับมาเป็นตัวตั้ง นำมาสู่ปัจจุบัน ตั้งให้แข็งแรงและเติมเต็ม ต่อยอดในอนาคต เป็น linking pin เป็นจุดตัวเชื่อมกับคนในอนาคต คือคนรุ่นใหม่”

หัวหน้าเพื่อไทย แทบทุกยุคมักถูกตีตราเป็น “หุ่นเชิด” ในยุค นพ.ชลน่าน เขาพลิกตอบว่า “อันนี้ถ้าเพื่อไทยแก้จุดนี้ได้ก็จะกลายเป็นจุดแข็ง เพื่อไทยก็ประเมินตัวเองว่า ตรงนี้เป็นจุดอ่อน แต่วิธีการเป็นเรื่องภายใน”

ส่วน “ภูมิธรรม” กล่าวถึงเสียงวิจารณ์หัวหน้าพรรคหุ่นเชิดว่า “แล้วแต่มอง แต่ในความเป็นจริง จากประสบการณ์และผลงานของพรรคเพื่อไทยสะท้อนให้เห็นว่า เราขบคิดแต่ละเรื่องมาก และมีรายละเอียด”

“ไม่ได้อยู่ ๆ ก็มาตามกระบวนการแล้วก็ไป ไม่ใช่แบบนั้น แต่พรรคเพื่อไทยคิดอะไรเยอะ มองถึงเรื่องประเทศในหลากหลายแง่มุม ดูวิธีการหาทางออกในมุมต่าง ๆ พร้อมกับการจัดสรรบุคลากรต่าง ๆ จัดวิสัยทัศน์ รับภารกิจของพรรคเต็มไปหมด”

ด้าน “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรค กล่าวถึงเหตุผลพรรคเพื่อไทยหยิบชื่อ “นพ.ชลน่าน” มาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า เป็นคนที่อยู่กับเพื่อไทยมา รู้วัฒนธรรมของพรรค เข้าใจการทำงานในสภา และเชื่อมได้กับคนหลายรุ่น

ผอ.เลี้ยบเชื่อมหัวหน้า-เลขาฯ

อีกหนึ่งคนที่กลับเข้ามามีตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการคือ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มานั่งเป็นผู้อำนวยการพรรค ประกาศสานฝันในยุคไทยรักไทยให้กลับมาเป็นจริง หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลในเลือกตั้งสมัยหน้า

“ความฝันทั้งหมดนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าเราไม่มีรัฐบาลที่มาจากประชาชน รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันผลักดันความฝันของเราที่เคยร่วมฝันกันไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วอีกครั้ง ถามตัวเองว่า ยังมีความฝันอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ และมาเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริงเพื่อประชาชน”

ภารกิจหมอเลี้ยบ ตามจ็อบเดสคริปชั่น ผู้อำนวยการพรรค ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย จะเข้ามาสานงานหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค

หากวาระการเมืองปกติ อีกไม่เกิน 18 เดือนจะมีการเลือกตั้งใหญ่ เพื่อไทย-ทักษิณ ทุ่มสุดตัว ส่ง “แพทองธาร” เป็น ไพ่ไฟใบสุดท้าย หวังสานฝันชนะแบบหิมะถล่ม-แผ่นดินสไลด์