บิ๊กตู่ ฉุน ถูกฝ่ายค้านอัดงบประมาณไม่ตอบโจทย์อนาคต แฉ ต้องใช้หนี้จำนำข้าวตั้งแต่ปี 54 กว่า 9 แสนล้าน ใช้หนี้แล้ว 7 แสนล้าน ยังเหลืออีก 3 แสน ไม่อยากจะย้อนกลับ
วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อภิปรายชี้แจงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกต งบรายจ่ายลงทุนปี 66 มีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ ว่า งบประมาณรายจ่ายปี 66 มีรายจ่ายลงทุนจำนวน 6.95 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.82
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- น้ำมันทำอาหารใช้แล้วอย่าทิ้ง บางจากรับซื้อ กก.20 บาท เช็ก 162 จุดรับซื้อ
นอกจากนี้ภาครัฐยังมีการลงทุนในรูปแบบอื่นอีกด้วย จากเงินกู้ การลงทุนร่วมภาครัฐกับเอกชน (PPP) กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFF) วงเงิน 9.8 หมื่นล้านบาท และเมื่อรวมกับรายจ่ายลงทุนที่มาจากงบประมาณจะเห็นว่าในปีงบประมาณ 66 รัฐมีเม็ดเงินสำหรับใช้จ่ายลงทุนในประเทศประมาณ 794,006 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 24.9 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
“งบลงทุนไม่ใช่เพียงงบประมาณที่รัฐจ่ายลงไปให้เท่านั้น แต่ยังมีความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน เช่น โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง โครงการเด่นชัย-เชียงของ โครงการก่อสร้างทางรถไฟบ้านไผ่-มหาสารคาม ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ชี้ แจงว่า การพัฒนาด้านการเกษตร ตนอดไม่ได้ หลายเรื่องมันพันกันอยู่ งบประมาณด้านการเกษตร สิ่งที่เราทำวันนี้ ทำเพื่ออนาคต นอกเหนือจากการประกันราคาสินค้าเกษตร 6 ชนิด หนักที่สุด คือ ข้าว การให้เงินเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว เมื่อเกษตรกรเดือดร้อนก็ต้องดูแล แต่ภาระก็จะมากขึ้น
“ถ้าท่านพูดว่า วันนี้งบประมาณในอดีตไม่ใช่อนาคต ผมก็ขอเรียนอีกครั้งว่า ตั้งแต่ปี 54 เป็นต้นมา โครงการจำนำข้าวขาดทุน 957,000 ล้านบาท รัฐบาลนี้ล่ะครับ ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไปแล้ว 781,000 ล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ย 3 แสนล้านบาท เงินตรงนี้ ถ้าอยู่ เอามาทำได้อีกเยอะ ใครทำไว้ ไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะย้อนกลับ”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ส่วนที่ฝ่ายค้านอภิปรายว่างบประมาณรายจ่ายปี 66 ไม่จัดลำดับความสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไม่มีได้อย่างไร ในเมื่อข้อมูลทุกจังหวัดมาทุกจังหวัด ทุกเซกเตอร์ มันมา บิ๊กดาต้ามันมา มันมี ใครได้ ใครเสีย ใครขาด ตนดูให้ทุกที่ เรื่องใดเร่งด่วนก็ต้องทำ ไม่เร่งด่วนก็คอยก่อน ส่วนใหญ่ที่ท่านบอกไม่ได้ ๆ เพราะโครงการนั้นยังไม่มีความเร่งด่วน แต่ตนก็ฟังท่าน เพราะท่านเป็น สส. ทุกคนอยากได้หมด ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ได้ หรือ ปีต่อไปก็ได้
“งบกลางที่ว่าตั้งมาก ๆ ไว้เนี่ย ผมไปใช้ส่วนตัวเหรอครับ ผมไปให้ใครได้ไหม คณะกรรมการกลั่นกรอง ครม.ก็มี ต้องมีแผนงานโครงการใช่ไหม นอกจากเรื่องฉุกเฉินแล้วยังเติมงบประมาณให้กับจังหวัด กลุ่มจังหวัด บูรณาการในกรณีขาดเหลือ ไม่เพียงพอสำหรับโครงการสำคัญ เวลาไปเยี่ยม ไปเยือนประชาชน คณะกรรมการภาค คณะกรรมการจังหวัดขาดงบประมาณ ผมก็เอางบกลางนี่แหละไปเติมให้เขา”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับงบประมาณสำหรับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลใช้เงินไป 397,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในเวลานั้นเศรษฐกิจล้มไปแล้ว ล้มเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว จึงเป็นการเยียวยาให้อยู่รอดได้
“วันนี้กำลังให้เขาเข้มแข็งขึ้น นี่กำลังจัดหาเรื่องเม็ดเงินที่จะให้เขาไปปรับปรุง ไปพัฒนาที่พัก ที่ให้บริการทรุดโทรม ชำรุด ไม่มีลูกค้ามา กำลังหาเงินให้อยู่ เพื่อพัฒนาตรงนี้ให้ได้ และเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้น ทำทุกเรื่อง แต่ไม่ง่ายอย่างที่ท่าน พูดกับทำมันยากง่ายต่างกันนะ”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
