แบทแมน ฉบับภาพยนตร์มีมาแล้วกี่เวอร์ชั่น รู้ไว้ก่อนรับชมภาครีบูตล่าสุดอย่าง “เดอะ แบทแมน” เข้าฉายวันนี้ (3 มี.ค.)
วันที่ 3 มีนาคม 2565 เดอะคัลเจอร์ทริป รายงานว่า แบทแมน ยังคงเป็นไอคอนของภาพยนตร์สมัยใหม่ตลอดกาล ซึ่งถูกนำมาทำซ้ำ ดัดแปลงหลายต่อหลายครั้ง เราจะพาผู้อ่านไปย้อนดูกันว่าก่อนจะเป็นเวอร์ชัjนล่าสุดในปี 2565 นี้ มีมาแล้วทั้งหมดกี่เวอร์ชั่น
- หวยงวด 16 พ.ค. สถิติหวย ผลการออกรางวัล ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- หวยงวด 16 พ.ค. 67 ถ่ายทอดสด ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งฯ วันนี้
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
หนังแบทแมนเรื่องแรกคือเรื่องใด?
ภาพยนตร์แบทแมนเวอร์ชั่นแรกถูกสร้างโดย “บ็อบ เคน” และ “บิล ฟินเกอร์” สำหรับ ดีซี คอมมิกส์ เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวละคร และถูกเปิดตัวใน Detective Comics ฉบับที่ 27 ในปี 2482 โดยตัวละครของแบทแมน หรือ บรูซ เวย์น เป็นมหาเศรษฐีหนุ่มผู้มีอัตตาสูง แสดงโดยนักแสดงหลายคน
แต่ในทางเทคนิคแล้ว การปรากฏตัวของแบทแมนครั้งแรกในโรงภาพยนตร์คือแบทแมนเวอร์ชั่น 15 ตอน ในปี 2486 เช่นเดียวกับซีรีส์ภาพยนตร์หลายเรื่องในยุคนั้น ตัวละครนี้ถูกใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อทางสงครามและแสดงความต่อต้านญี่ปุ่น
ภาพยนตร์แบทแมนทั้งหมดตามลำดับ
- แบทแมน (2509) ภาพยนตร์แบทแมนเรื่องแรกที่เข้าฉายคือเวอร์ชั่นที่น่าจดจำ ซึ่งนำแสดงโดย “อดัม เวสต์” ในบทแบทแมน “เบิร์ต วอร์ด” คือโรบิน และกลุ่มวายร้ายทั้งหมดได้เปลี่ยนจากหน้าจอขนาดเล็กไปเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์
- แบทแมน (2532) “ทิม เบอร์ตัน” รับหน้าที่ผู้กำกับและชุบชีวิตแบทแมนหลังจากพยายามมาหลายครั้ง “ไมเคิล คีตัน” ได้รับบทเป็นแบทแมน ด้านความเป็นสุนทรียศาสตร์ก็ออกแนว “กอทิก” มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ภาคก่อน
- แบทแมน รีเทิร์น (2535) เนื้อหามีความเข้มข้นกว่าภาคที่แล้ว ภาคต่อนี้ได้เห็นการกลับมาของ ทิม เบอร์ตัน และ ไมเคิล คีตัน และยังเพิ่ม “แดนนี่ เดอวิโต” มารับบท “เดอะ เพนกวิน” และ “มิเชลล์ ไฟเฟอร์” เป็น “แคทวูแมน”
- แบทแมน ฟอร์เอเวอร์ (2538) เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงจากภาพยนตร์แบทแมนสองเรื่องก่อนหน้านี้ แบทแมน ฟอร์เอเวอร์ มีน้ำหนักเรื่องที่เบากว่า คีตันและเบอร์ตันต่างออกไปและถูกแทนที่โดย “วาล คิลเมอร์” และ “โจเอล ชูมัคเกอร์” เสียงวิจารณ์ค่อนข้างดีและได้รับคำชมสำหรับแนวทางของ บรูซ เวย์น ฉบับนี้ แต่ตัวร้ายที่แสดงโดย “จิม แคร์รี่” และ “ทอมมี่ ลี โจนส์” กลับถูกมองว่าเป็นการก้าวถอยหลัง
- แบทแมน แอนด์ โรบิน (2540) ชูมัคเกอร์ ยังคงอยู่ แต่คิลเมอร์หายไป เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ทะเลาะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่ทำงานร่วมกันเมื่อสองปีก่อน จอร์จ คลูนีย์ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จทางทีวีมารับบทแบทแมน รวมถึงการกลับมาของโรบินที่รับบทโดย “คริส โอดอนเนลล์” แม้ว่าจะขนทัพนักแสดงอย่าง “อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน”, “อูมา เธอร์แมน” และ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” ก็ไม่สามารถแบกภาพยนตร์ไว้ได้ ซึ่งตามมาด้วยความล้มเหลวด้านบทวิจารณ์ และเป็นการกล่าวว่าแฟรนไชส์นี้ได้จบลงแล้ว
- แบทแมน บีกินส์ (2548) จากกระแสภาพยนตร์ ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง “เอ็กซ์-เมน” และ “สไปเดอร์แมน” ของโซนี่ ในปี 2547 ที่โด่งดัง วอร์เนอร์ บรอส ได้ชุบชีวิตแบทแมนขึ้นมาอีกครั้ง โดยได้ผู้กำกับ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เขาถูกมอบหมายให้รีบูตแบทแมน หลังทำการค้นคว้าอย่างหนักและออดิชันนักแสดงหลายร้อยครั้ง เขาคว้าตัว “คริสเตียน เบล” มาเล่นบทนำ
- เดอะ ดาร์ก ไนท์ (2551) แนวทางภาพยนตร์ที่เน้นความมีเหตุมีผลซึ่งโนแลนชื่นชอบนั้น สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ได้อย่างชัดเจน แต่เทียบไม่ได้กับการมาของภาคต่อเลย เรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้น เข้มข้นขึ้น และมีนักแสดงชนะรางวัลออสการ์อย่าง “ฮีธ เลดเจอร์” ที่เสียชีวิตไม่นานหลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จ อัศวินรัตติกาลกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
- เดอะ ดาร์ก ไนท์ ไรส์ (2555) ด้วยคู่แข่งอย่าง อเวนเจอร์ ของค่ายมาร์เวล ที่มาแรงเกินต้าน ภาคสุดท้ายของไตรภาคฉบับโนแลนถูกวิจารณ์ว่า รู้สึกไร้แรงดึงดูด ไม่ใช่ว่าล้มเหลวแต่อย่างใด แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้รู้สึกไม่ปะติดปะต่อและเร่งรีบเล็กน้อย
- แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน: รุ่งอรุณแห่งความยุติธรรม (2559) เมื่อพูดถึงความรีบร้อน วอร์เนอร์ บรอส ได้สร้างแฟรนไชส์จักรวาลของเขาหลังจากประสบความสำเร็จจาก แมน ออฟ สตีล (2556) ภาพยนตร์ซูเปอร์แมนที่แสดงโดย “เฮนรี คาร์วิล” คว้า “เบน แอฟเฟลค” มารับบทแบทแมน ซึ่งภาคนี้ได้สร้างการต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในตำนานหนังสือการ์ตูน
- จัสติส ลีก (2560) หนังรวมทีมอีกเรื่องหนึ่งของจักรวาล ซึ่งด้านหนังเดี่ยวของแบทแมนฉบับ เบน แอฟเฟลค ที่แฟน ๆ รอคอยกันมายาวนานดูเหมือนจะยังอีกไกล หลังมีเสียงตอบรับภาพยนตร์ 2-3 เรื่องล่าสุดในด้านลบ มีข่าวลือว่า วอร์เนอร์ บรอส อยู่ในขั้นตอนเขียนบทใหม่ ด้านเบน แอฟเฟลค ได้ตัดสินใจว่าจะไม่เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เดี่ยวที่เสนอด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (3 มี.ค.) เป็นวันที่ “เดอะ แบทแมน” เวอร์ชั่นล่าสุดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทย คราวนี้นำแสดงโดย “โรเบิร์ต แพททินสัน” หนุ่มหล่อผู้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์อย่าง แฮรี่ พอตเตอร์ ในบท “เซดริก ดิกกอรี่” ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกจากภาพยนตร์ชุด “ทไวไลท์” กับบทเทพบุตรแวมไพร์ “เอ็ดเวิร์ด คัลเลน” กำกับโดย “แม็ตต์ รีฟส์”