#Batman ฉบับภาพยนตร์คนแสดง มีมาแล้วกี่เวอร์ชั่น

Batman
ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ The Batman

แบทแมน ฉบับภาพยนตร์มีมาแล้วกี่เวอร์ชั่น รู้ไว้ก่อนรับชมภาครีบูตล่าสุดอย่าง “เดอะ แบทแมน” เข้าฉายวันนี้ (3 มี.ค.)

วันที่ 3 มีนาคม 2565 เดอะคัลเจอร์ทริป รายงานว่า แบทแมน ยังคงเป็นไอคอนของภาพยนตร์สมัยใหม่ตลอดกาล ซึ่งถูกนำมาทำซ้ำ ดัดแปลงหลายต่อหลายครั้ง เราจะพาผู้อ่านไปย้อนดูกันว่าก่อนจะเป็นเวอร์ชัjนล่าสุดในปี 2565 นี้ มีมาแล้วทั้งหมดกี่เวอร์ชั่น

หนังแบทแมนเรื่องแรกคือเรื่องใด?

ภาพยนตร์แบทแมนเวอร์ชั่นแรกถูกสร้างโดย “บ็อบ เคน” และ “บิล ฟินเกอร์” สำหรับ ดีซี คอมมิกส์ เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวละคร และถูกเปิดตัวใน Detective Comics ฉบับที่ 27 ในปี 2482 โดยตัวละครของแบทแมน หรือ บรูซ เวย์น เป็นมหาเศรษฐีหนุ่มผู้มีอัตตาสูง แสดงโดยนักแสดงหลายคน

แต่ในทางเทคนิคแล้ว การปรากฏตัวของแบทแมนครั้งแรกในโรงภาพยนตร์คือแบทแมนเวอร์ชั่น 15 ตอน ในปี 2486 เช่นเดียวกับซีรีส์ภาพยนตร์หลายเรื่องในยุคนั้น ตัวละครนี้ถูกใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อทางสงครามและแสดงความต่อต้านญี่ปุ่น

ภาพยนตร์แบทแมนทั้งหมดตามลำดับ

  • แบทแมน (2509) ภาพยนตร์แบทแมนเรื่องแรกที่เข้าฉายคือเวอร์ชั่นที่น่าจดจำ ซึ่งนำแสดงโดย “อดัม เวสต์” ในบทแบทแมน “เบิร์ต วอร์ด” คือโรบิน และกลุ่มวายร้ายทั้งหมดได้เปลี่ยนจากหน้าจอขนาดเล็กไปเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์
  • แบทแมน (2532) “ทิม เบอร์ตัน” รับหน้าที่ผู้กำกับและชุบชีวิตแบทแมนหลังจากพยายามมาหลายครั้ง “ไมเคิล คีตัน” ได้รับบทเป็นแบทแมน ด้านความเป็นสุนทรียศาสตร์ก็ออกแนว “กอทิก” มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ภาคก่อน
  • แบทแมน รีเทิร์น (2535) เนื้อหามีความเข้มข้นกว่าภาคที่แล้ว ภาคต่อนี้ได้เห็นการกลับมาของ ทิม เบอร์ตัน และ ไมเคิล คีตัน และยังเพิ่ม “แดนนี่ เดอวิโต” มารับบท “เดอะ เพนกวิน” และ “มิเชลล์ ไฟเฟอร์” เป็น “แคทวูแมน”
  • แบทแมน ฟอร์เอเวอร์ (2538) เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงจากภาพยนตร์แบทแมนสองเรื่องก่อนหน้านี้ แบทแมน ฟอร์เอเวอร์ มีน้ำหนักเรื่องที่เบากว่า คีตันและเบอร์ตันต่างออกไปและถูกแทนที่โดย “วาล คิลเมอร์” และ “โจเอล ชูมัคเกอร์” เสียงวิจารณ์ค่อนข้างดีและได้รับคำชมสำหรับแนวทางของ บรูซ เวย์น ฉบับนี้ แต่ตัวร้ายที่แสดงโดย “จิม แคร์รี่” และ “ทอมมี่ ลี โจนส์” กลับถูกมองว่าเป็นการก้าวถอยหลัง
  • แบทแมน แอนด์ โรบิน (2540) ชูมัคเกอร์ ยังคงอยู่ แต่คิลเมอร์หายไป เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ทะเลาะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่ทำงานร่วมกันเมื่อสองปีก่อน จอร์จ คลูนีย์ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จทางทีวีมารับบทแบทแมน รวมถึงการกลับมาของโรบินที่รับบทโดย “คริส โอดอนเนลล์” แม้ว่าจะขนทัพนักแสดงอย่าง “อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน”, “อูมา เธอร์แมน” และ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” ก็ไม่สามารถแบกภาพยนตร์ไว้ได้ ซึ่งตามมาด้วยความล้มเหลวด้านบทวิจารณ์ และเป็นการกล่าวว่าแฟรนไชส์นี้ได้จบลงแล้ว
  • แบทแมน บีกินส์ (2548) จากกระแสภาพยนตร์ ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง “เอ็กซ์-เมน” และ “สไปเดอร์แมน” ของโซนี่ ในปี 2547 ที่โด่งดัง วอร์เนอร์ บรอส ได้ชุบชีวิตแบทแมนขึ้นมาอีกครั้ง โดยได้ผู้กำกับ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เขาถูกมอบหมายให้รีบูตแบทแมน หลังทำการค้นคว้าอย่างหนักและออดิชันนักแสดงหลายร้อยครั้ง เขาคว้าตัว “คริสเตียน เบล” มาเล่นบทนำ
  • เดอะ ดาร์ก ไนท์ (2551) แนวทางภาพยนตร์ที่เน้นความมีเหตุมีผลซึ่งโนแลนชื่นชอบนั้น สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ได้อย่างชัดเจน แต่เทียบไม่ได้กับการมาของภาคต่อเลย เรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้น เข้มข้นขึ้น และมีนักแสดงชนะรางวัลออสการ์อย่าง “ฮีธ เลดเจอร์” ที่เสียชีวิตไม่นานหลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จ อัศวินรัตติกาลกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
  • เดอะ ดาร์ก ไนท์ ไรส์ (2555) ด้วยคู่แข่งอย่าง อเวนเจอร์ ของค่ายมาร์เวล ที่มาแรงเกินต้าน ภาคสุดท้ายของไตรภาคฉบับโนแลนถูกวิจารณ์ว่า รู้สึกไร้แรงดึงดูด ไม่ใช่ว่าล้มเหลวแต่อย่างใด แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้รู้สึกไม่ปะติดปะต่อและเร่งรีบเล็กน้อย
  • แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน: รุ่งอรุณแห่งความยุติธรรม (2559) เมื่อพูดถึงความรีบร้อน วอร์เนอร์ บรอส ได้สร้างแฟรนไชส์จักรวาลของเขาหลังจากประสบความสำเร็จจาก แมน ออฟ สตีล (2556) ภาพยนตร์ซูเปอร์แมนที่แสดงโดย “เฮนรี คาร์วิล” คว้า “เบน แอฟเฟลค” มารับบทแบทแมน ซึ่งภาคนี้ได้สร้างการต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในตำนานหนังสือการ์ตูน
  • จัสติส ลีก (2560) หนังรวมทีมอีกเรื่องหนึ่งของจักรวาล ซึ่งด้านหนังเดี่ยวของแบทแมนฉบับ เบน แอฟเฟลค ที่แฟน ๆ รอคอยกันมายาวนานดูเหมือนจะยังอีกไกล หลังมีเสียงตอบรับภาพยนตร์ 2-3 เรื่องล่าสุดในด้านลบ มีข่าวลือว่า วอร์เนอร์ บรอส อยู่ในขั้นตอนเขียนบทใหม่ ด้านเบน แอฟเฟลค ได้ตัดสินใจว่าจะไม่เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เดี่ยวที่เสนอด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (3 มี.ค.) เป็นวันที่ “เดอะ แบทแมน” เวอร์ชั่นล่าสุดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศไทย คราวนี้นำแสดงโดย “โรเบิร์ต แพททินสัน” หนุ่มหล่อผู้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์อย่าง แฮรี่ พอตเตอร์ ในบท “เซดริก ดิกกอรี่” ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกจากภาพยนตร์ชุด “ทไวไลท์” กับบทเทพบุตรแวมไพร์ “เอ็ดเวิร์ด คัลเลน” กำกับโดย “แม็ตต์ รีฟส์”

Advertisment