เตรียมชง 3 แพ็กเกจ 2 หมื่นล้านเข้า ครม. หวังอัดฉีดปลุกชีวิตท่องเที่ยวไทย ! อสม.ยังได้แน่-คนไทยรับค่าห้องพักคืน 40% ด้านสายการบินรุกขอพ่วงแพ็กเกจที่ 3 แต่ยังอุบรายละเอียด
ฟากแทรเวลบับเบิลเดินหน้าต่อ นายกฯ สั่ง 4 กระทรวงหารือ เปิดรับนักธุรกิจ-คนป่วยเข้าประเทศกรกฎาคมนี้ ! ปักเป้าหมายเอเชียตะวันออก-โอเชียเนีย-ตะวันออกกลาง ตั้งเป้าสิงหาคมเริ่มรับนักท่องเที่ยวอิสระได้ หากไร้ปัญหาติดเชื้อ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะนำรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ 3 แพ็กเกจ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อกลั่นกรองก่อน
3 แพ็กเกจกระตุ้นท่องเที่ยว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระุบว่า วันอังคารที่ 16 มิถุนายน กระทรวงการคลังจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อหารือและขอความเห็นชอบต่อไป โดยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 3 แพ็กเกจ ได้แก่
1. แพ็กเกจกำลังใจ ตอบแทนบุคลากรแนวหน้าทางด้านสาธารณสุข อาทิ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ฯลฯ โดยมอบงบฯศึกษาดูงานกับบริษัทนำเที่ยวในประเทศ 2 แพ็กเกจ มีระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน ตั้งแต่กรกฎาคม-ตุลาคม
2. แพ็กเกจเที่ยวปันสุข มอบค่าที่พัก 40% รวมไม่เกิน 3,000 บาท/คน/ห้อง คืนให้แก่ประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อใช้จ่ายในโรงแรมสำหรับการท่องเที่ยวข้ามจังหวัด
3. แพ็กเกจสุดท้าย ยังไม่ชัดเจนในรายละเอียด แต่เป็นแพ็กเกจที่เสนอเข้ามาโดยกลุ่มสายการบิน
ความคืบหน้า Travel Bubble
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ด้านการเปิดท่องเที่ยวโดยการจับคู่ประเทศ (travel bubble) ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางการจับคู่ประเทศเพื่อการเดินทางให้ปลอดภัยและห่างไกลจากการติดเชื้อ ให้ได้ข้อสรุปว่าจะจับมือกับประเทศใดบ้าง มีเงื่อนไขการเดินทางอย่างไร รวมถึงหากไม่มีเงื่อนไขการกักตัว 14 วัน จะมีแนวทางในการป้องกันเชื้ออย่างไร
หลังการหารือระหว่างกระทรวงเรียบร้อยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ชุดเล็ก ในวันพุธที่ 17 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดการเดินทางได้เร็วที่สุดในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ มีกลุ่มประเทศเป้าหมายระยะแรกเป็นจีน รวมถึงฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศในตะวันออกกลาง โดยอาจเริ่มพร้อมกันหลายประเทศในลักษณะเป็น group bubble
นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ระยะแรกการเปิดแทรเวลบับเบิลคาดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยราว 1,000 คน/วัน และจะมุ่งเป้าหมาย 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มรักษาพยาบาล (ไม่ใช่โควิด-19) โดยมีเงื่อนไขกำหนดว่าจะต้องมีเอกสารเชิญจากบริษัทคู่ค้าหรือโรงพยาบาลปลายทางในไทย โดยมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับจากออกเอกสารก่อนจะขยายผลไปสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ (free individual traveler-FIT) ในระยะต่อไป เร็วที่สุดไม่เกินเดือนสิงหาคม และช้าที่สุดไม่เกินเดือนตุลาคม หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี และไม่มีปัญหาการติดเชื้อลุกลามจากการทำแทรเวลบับเบิลในระยะแรก
นอกจากนั้น แนวทางการเปิดเดินทางแบบแทรเวลบับเบิล อาจกำหนดพื้นที่ปิด (sealed area) เป็น safe zone for tourism โดยพิจารณาจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองที่ประชาชนยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาพำนักและท่องเที่ยว รวมถึงมีมาตรฐาน Safety & Health Administration (SHA) ที่รับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
