“เอซัวร์ ริช” จับมือ “สยาม ลัคกี้ บิลดิ้ง ซิสเท็ม” นำนวัตกรรมก่อสร้างสำเร็จรูปแบบไฮบริด แบรนด์ ‘Evolutions’

วันที่ 20 มีนาคม 2566 - 11:28 น.

“เอซัวร์ ริช” จับมือ “สยาม ลัคกี้ บิลดิ้ง ซิสเท็ม” นำนวัตกรรมก่อสร้างสำเร็จรูปแบบไฮบริด แบรนด์ ‘Evolutions’ รุกอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อลดเวลาก่อสร้าง เพิ่มคุณภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บริษัท เอซัวร์ ริช กรุ๊ป จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติไทย-ออสเตรเลีย ได้ลงนามบันทึกความ ร่วมมือกับ บริษัท สยาม ลัคกี้ บิลดิ้ง ซิสเท็ม จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจด้านการก่อสร้างด้วยระบบสำเร็จรูป ของ บริษัท สยามสตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย เพื่อนำนวัตกรรมเทคโนโลยีการก่อสร้างแบบไฮบริดความเร็วสูงที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานซึ่งได้พัฒนาร่วมกัน มาใช้ในโครงการก่อสร้างที่พัฒนาโดยเอซัวร์ทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้ชื่อทางการค้า ‘Evolutions’ เช่นโครงการรีสอร์ทของเอซัวร์ฯ โดยนวัตกรรมแบบไฮบริดหรือการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป จะช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้าง จัดการคุณภาพ และเป็นแนวทางการก่อสร้างที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

โดยโครงการ เนบู เรสซิเด้นท์ จอมเทียน มูลค่า 4 พันล้านบาทของบริษัท เอซัวร์ ริช กรุ๊ป จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงแรมในเครือ ‘Nebu World’ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตั้งอยู่ที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ โดยประกอบไปด้วยห้องพัก จำนวน 950 ห้อง ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

95% ของรีสอร์ทบังกะโลผลิตจากโรงงานและติดตั้งโดยใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการก่อสร้างแบบปกติ

โดยอาคารภายในโครงการจะประกอบไปด้วย อาคารที่ก่อสร้างด้วยระบบอาคารสำเร็จรูปจากโรงงาน ก่อสร้างในลักษณะไฮบริด (ผสมระหว่างการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปและแบบปกติ) และก่อสร้างอาคารแบบปกติ โดยใช้บุคลากรและทรัพยากรร่วมกันของ ‘Evolutions’ ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท สยาม ลัคกี้ บิลดิ้ง ซิสเท็ม จำกัด บริษัท แปซิฟิค ริม ริช กรุ๊ป จำกัด (บริษัทก่อสร้างสัญชาติไทย) และบริษัท กรีนอาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทสถาปนิก)

มร. มาร์ค แทนเนอร์ สถาปนิกชาวออสเตรเลีย (ผู้ก่อตั้ง กลุ่มบริษัท กรีนอาร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (สถาปัตยกรรม) ผู้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีกล่าวว่า “ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้งทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก อุตสาหกรรมการก่อสร้างได้รับอุปสรรคจากความคาดหวังของผู้พัฒนาและเจ้าของโรงแรมที่จะขยายโรงแรม เพื่อตอบสนองอุปสงค์การท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ‘Evolutions’ คือการผสมผสานระหว่างประสบการณ์กว่า 20 ปีของ 3 กลุ่มบริษัท ที่เกิดจากวัตถุประสงค์ในการลดระยะเวลาการก่อสร้าง จัดการคุณภาพ และเป็นแนวทางการก่อสร้างที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น”

บริษัท สยาม ลัคกี้ บิลดิ้ง ซิสเท็ม จำกัด ในฐานะบริษัทในเครือของบริษัท สยามสตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 และมีประวัติยาวนานในหลายภาคส่วน รวมถึงในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปและโครงสร้างสำเร็จรูปมายาวนานกว่า 25 ปี โดยมีโครงการที่สำคัญมากมาย รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในระดับนานาชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ดูไบ และในประเทศไทย

กลุ่มบริษัท กรีนอาร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อตั้งในประเทศออสเตรเลียในปี 2543 และในประเทศไทยในปี 2553 โดยมีประสบการณ์อย่างยาวนานในด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างระดับนานาชาติ ด้วยเวลากว่า 10 ปีในการพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างด้วยระบบสำเร็จรูปความเร็วสูง พร้อมการออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย รวมถึงสิทธิบัตรที่จดทะเบียนในประเทศออสเตรเลีย และมีผลงานในระดับนานาชาติ

นายกิติชัย คุณานันทกุล กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจบริษัท สยาม ลัคกี้ บิลดิ้ง ซิสเท็ม ในเครือ บริษัท สยามสตีล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน กล่าวว่า “เราเห็นความเคลื่อนไหวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งในและต่างประเทศ ความต้องการในด้านการลดเวลาการก่อสร้าง และการควบคุมคุณภาพที่ดีมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีนี้ เติบโตขึ้นไปพร้อมๆกับ ส่วนแบ่งในทางการตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีส่วนร่วมอย่างมากในการก่อสร้างแบบไฮบริดในอุตสาหกรรมคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ห้องน้ำสำเร็จรูป และเรามองเห็นโอกาสในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมการบริการ ซึ่งการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปช่วยประหยัดเวลาได้มาก การเงินโดยรวมของโครงการดีขึ้น เนื่องจากการก่อสร้างเสร็จสิ้นเร็วและสามารถสร้างรายได้เร็วขึ้น”

ในขณะที่อายุของประชากรสูงขึ้น การขาดแคลนแรงงานที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก และด้วยภาวะโลกร้อน ซึ่งปัญหาทั้งหมดที่นำมาสู่อุตสาหกรรมการก่อสร้าง จึงเป็นเหตุผลที่อุตสาหกรรมต้องปรับตัวไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น อุตสาหกรรมการก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและมีวิวัฒนาการช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ใช้ข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยี และควรแก่เวลาแล้วที่อุตสาหกรรมก่อสร้างต้องปรับตัว

นักลงทุนทั่วโลกกำลังมองหาการลงทุนที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กองทุนบริหารความเสี่ยง (Hedge Fund) และนักลงทุนสถาบันหลายแห่งทั่วโลก ได้รับคำสั่งที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมากก่อนเพื่อให้บริหารกองทุนไปในทิศทางที่สอดคล้องต่อความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งรวมทั้ง อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลทั่วโลกยังควบคุมการวางแผนและกฎระเบียบด้านการก่อสร้างให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อป้องกันปัญหาความไม่ยั่งยืนในการพัฒนาและก่อสร้างที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัท เอซัวร์ ริช กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 ในประเทศไทย และในปี 2543 ในประเทศออสเตรเลีย ดร.ศุภฤกษ์ ชมชาญ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “บริษัทฯ ยินดีที่โครงการพัฒนาเครือรีสอร์ทในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค ของบริษัทฯ ได้ดำเนินไปในแนวทางที่เล็งเห็นถึงความยั่งยืนทั้งทางด้านการเงินและสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ สามารถเริ่มเปิดดำเนินการได้เร็วเท่าไร ผลตอบแทนจากการลงทุนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น บริษัทฯ หวังว่าตลาดจากมุมมองของนักลงทุนและผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ จะมองเห็นวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ และสนับสนุนความคิดเช่นเดียวกับเราและคนอื่นๆ ในตลาด สิ่งนี้จะสร้างความตระหนักและความสำคัญในอุตสาหกรรมว่าเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญในการก้าวไปสู่ความยั่งยืนและสร้างผลกำไรให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด”