‘ดีเจตู่’ ขอบึงกาฬลดปลูกยาง แนะเงิน500ซื้อของจำเป็นใช้ได้นานๆ อย่าไปซื้อเหล้า-ฟุ่มเฟือย

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบของชาติ (คสช.) ลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ก่อนประชุม ครม.นอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 9/2561 ที่ จ.หนองคาย ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม ซึ่งนับเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรก หลังประกาศปลดล็อกการเมือง โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบ เพื่อไม่ให้บุคคลที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีต หรือกลุ่มที่เคลื่อนไหวในภาคประชาสังคมเรียกร้องด้านต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เข้ามาภายในบริเวณงาน

โดยมีการแจกภาพถ่ายและชื่อบุคคลต้องห้ามให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งนี้ ได้มีการขอความร่วมมือประชาชนที่มาต้อนรับให้วางกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดไว้ด้านล่างของเก้าอี้ ไม่อนุญาตให้สะพายไว้ที่ตัว เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด นอกจากนี้ บรรดาชาวบึงกาฬและบริเวณใกล้เคียงยังให้ความสนใจหาซื้อลอตเตอรี่เลข 44 ซึ่งเป็นทะเบียนรถยนต์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ในภารกิจที่จังหวัดบึงกาฬ โดยนายกฯได้นั่งรถโตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ ทะเบียน 5 กง 44 กรุงเทพมหานคร

โดยทันทีที่มาถึง เวลา 09.00 น. นายกฯเดินทางไปยังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 จังหวัดบึงกาฬ เพื่อร่วมปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะจัดรายการผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียง 909 งานพัฒนาภาคสอง สำนักงานพัฒนาภาคสองหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลดูแลผู้มีรายได้น้อย ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท และ 3 หมื่นบาทต่อปีไปก่อน ขณะนี้ต้องเห็นใจคนเหล่านี้ ซึ่งไม่ได้สอนให้ไม่ประหยัด และไม่ได้เอาเงินไปแจกให้ แต่รัฐบาลมีหลายมาตรการลงไปที่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงนี้ ซึ่งถือเป็นระยะสั้น ส่วนระยะยาวมีการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องต่างๆ อย่างไรก็ตาม ตนมีความเป็นห่วงปัญหายางพารา เพราะจังหวัดบึงกาฬมียางมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งต้องดูความต้องการตลาด หากผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ ราคาก็จะตกลง ดังนั้นจึงขอให้พิจารณาการปรับลดพื้นที่ลงบ้าง รวมถึงปลูกพืชเชิงเดี่ยวหลายชนิดที่มีราคาดี นอกจากนี้ขอฝากผู้ว่าราชการทุกจังหวัดดูนโยบายของรัฐบาลและสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนด้วย

“ขณะเดียวกันโลกกำลังเปลี่ยนแปลง อย่างการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยที่มีปัญหาในเรื่องการกดเงิน ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะถูกเขาเอาประโยชน์ไป มีคนมารับจ้างกดเงินให้ เราเรียนรู้ด้วย เพราะเราเป็นเจ้าของบัตร ไม่เช่นนั้นรัฐบาลทำอะไรลงมาก็ไม่เกิดผล เม็ดเงิน 500 บาทเป็นเงินไม่มากนัก รัฐบาลมุ่งหวังลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ซื้ออุปกรณ์และสินค้าต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์ ได้นานๆ เช่น อาหารเก็บสต๊อกไว้เพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงไม่อยากให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ไปดื่มสุราหรือซื้อของใช้ที่ไม่จำเป็น นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไขส่วนอื่นๆ ที่จะใช้ฟุ่มเฟือยก็ต้องไปหารายได้ให้มากขึ้น และขอให้รับฟังจากผู้ว่าราชการทุกจังหวัดด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันอีกเรื่องหนึ่งการรับฟังจากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือข้อเท็จจริงและไม่ใช่ข้อเท็จจริง อะไรเป็นสาระสำคัญหรือข่าวปลอม รวมถึงต้องให้เด็กและผู้ใหญ่รู้จักแยกแยะ อย่าฟังในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เช่นนั้นก็จะพัฒนาตัวเองไม่ได้ อีกทั้งสิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม ก็หวังอย่างยิ่งว่าจะสานต่อให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และทำอะไรก็ตามอย่าคิดอย่างสั้นๆ ต้องคิดครบวงจรและทำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมียุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป และแผนแม่บทที่วางไว้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้รัฐบาลต่อไปต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ แม้วันนี้เราจะใช้งบประมาณมากเท่าไรก็ตาม แต่ยังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด

“ขอให้ประชาชนแยกแยะมีหลักคิดที่ถูกต้อง แม้กระทั่งการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่าไปสนใจในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ ซึ่งวันนี้เราเดินตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด อีกทั้งรัฐบาลและคสช.ได้ปลดล็อกห้ ที่ได้ประกาศไปแล้ว สิ่งสำคัญคือความสงบเรียบร้อย และฝากดูแลในเรื่องงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ซึ่งเรื่องนี้แล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าฯ ในช่วงเวลาใด แต่เราต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

ที่มา มติชนออนไลน์