ทายาท “วีคอนกรุ๊ป” บุกตลาดกัมพูชา ร่วมทุนพันธมิตรตั้งโรงงานวัสดุนวัตกรรมใหม่-

ทายาท “วีคอน กรุ๊ป” สยายปีก บุกตลาดวัสดุสำเร็จรูปในต่างประเทศ จับมือพันธมิตรท้องถิ่น นำร่องตั้งโรงงานผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป “Hollow core” แห่งแรกในประเทศกัมพูชา ชี้แนวโน้มธุรกิจก่อสร้างเริ่มสดใส มีเอกชนติดต่อแล้ว 3-4 โปรเจ็กต์ หวังแก้ปัญหาค่าแรงแพงขึ้นและลดระยะเวลางานก่อสร้าง พร้อมให้ดีไซน์งานอาคารทั้งโครงการ

นางสาวรญาพร ชัยชนะวงษ์ รองประธานกรรมการ บริษัท วงศ์ชัย จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 ของวีคอน กรุ๊ป เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ตัดสินใจลงทุนเปิดตลาดต่างประเทศ โดยร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น นำร่องตั้งโรงงานผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป “Hollow core” แห่งแรกในประเทศกัมพูชา มีกำลังการผลิต 25,000 ตารางเมตรต่อเดือน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Green Construction Material” เพราะมั่นใจว่า แนวโน้มธุรกิจภาคการก่อสร้างในกัมพูชาเริ่มสดใสขึ้น และมีความต้องการเลือกใช้วัสดุคุณภาพ

ล่าสุด มีผู้ประกอบการที่กัมพูชาได้ติดต่อเข้ามาแล้ว เพราะสนใจในวัสดุสำเร็จรูปที่เป็นนวัตกรรมเฉพาะของวีคอน กรุ๊ป ประมาณ 3-4 โปรเจ็กต์ รวมถึงลูกค้าบางส่วนต้องการให้บริษัทดีไซน์งานอาคารทั้งโครงการด้วย

วัสดุสำเร็จรูป “Hollow core” เป็นแผ่นพื้นสำเร็จรูปชนิดรูกลวง ที่มีช่องว่างภายใน โดยการใช้แผ่นคอนกรีตที่มีลักษณะเฉพาะ นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างแล้ว ยังจะช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของโครงสร้างอีกด้วย

“ประโยชน์ของแผ่นคอนกรีตแบบนี้จะช่วยลดเวลาการเจาะพื้นเพื่อเดินระบบไฟฟ้าและเครื่องจักรต่าง ๆ โดยหลัก ๆ แล้วแผ่นคอนกรีตเหล่านี้จะใช้เป็นพื้นเป็นระบบชั้นดาดฟ้า หรือแผ่นผนัง แต่โลกอนาคตนวัตกรรมวัสดุสมัยใหม่เป็นได้ทุกอย่าง”

นางสาวรญาพรกล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาบริษัทค่อนข้างโลว์โปรไฟล์ตามนโยบายของนายรังษี ชัยชนะวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วงศ์ชัย จำกัด (VCON) ซึ่งมีฐานะเป็นคุณพ่อและเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจของตระกูล ซึ่งมีประสบการณ์ในฐานะผู้ผลิตแผ่นพื้นสำเร็จรูปที่มีผลงานมาแล้ว 20,000 กว่าโครงการ รวมพื้นที่มากกว่า 29 ล้านตารางเมตร

“มาวันนี้มาถึงรุ่นลูก ๆ พวกเรามีพี่น้อง 3 คนกำลังมาช่วยสานต่อกิจการ พวกเราจึงตั้งเป้าจะผลักดันบริษัทให้ก้าวสู่ธุรกิจก่อสร้างระดับสากล จึงลงทุนเปิดโรงงานผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปที่ประเทศกัมพูชา ถือเป็นรายแรกสำหรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ในเรื่องวัสดุที่เราคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตมานาน รวมถึงการจัดการการบริหารระบบการผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีประสิทธิภาพ ไม่แพ้บริษัทต่างชาติอื่น ๆ ที่พยายามเข้ามาตีตลาดในเอเชีย”

ที่สำคัญ เรากล้าพูดได้เลยว่า VCON เป็นเบอร์หนึ่งด้านการผลิต และออกแบบที่พัฒนาเครื่องจักรตลอดเวลา ภายใต้ทักษะและนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมในด้านการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราชนะบริษัทต่างชาติที่ต้องการมาเปิดด้านการผลิตวัสดุที่กัมพูชา

“รัฐบาลกัมพูชาค่อนข้างพอใจที่เราช่วยอัพเกรดการก่อสร้างให้โดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะ เพื่อช่วยลดการทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการตัดไม้จำนวนมากเพื่อนำมาใช้ในงานก่อสร้าง ทางรัฐบาลกัมพูชาจึงให้การสนับสนุนในการลงทุนครั้งนี้อย่างเต็มที่ พูดถึงตลาดที่กัมพูชาแล้ว ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่เรานำไปเปิดตลาดนั้นมีหลักการตลาดเหมือนกับที่เราเคยใช้ในเมืองไทยสมัยก่อน โปรเจ็กต์แรกที่เราทำ คือ โครงการเซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่ VCON ผลิต, ติดตั้ง และร่วมออกแบบในส่วนของโครงสร้างพื้นและผนังสำเร็จรูปของห้าง ซึ่งขณะนั้นถือว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่มากสำหรับคนไทย และเป็นที่ฮือฮาในวงการก่อสร้างอย่างมาก เพราะรวดเร็ว สะดวก มีคุณภาพ และได้มาตรฐานสากล”

สำหรับงานก่อสร้างในประเทศไทยถือว่าปี 2560 การลงทุนของภาคเอกชนค่อนข้างชะลอตัว จะมีก็เป็นโครงการคอนโดมิเนียม และรีเทลหรือธุรกิจค้าปลีกเป็นหลัก ขณะที่การลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นของภาครัฐโดยเฉพาะเมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า