อังกฤษพบผู้ที่มีอาการป่วยจากการฉีดวัคซีน 2 ราย ซึ่งทั้งคู่มีประวัติโรคภูมิแพ้มาก่อน กระทรวงสาธารณสุขจึงแจ้งเตือนให้คนที่เคยมีประวัติโรคภูมิแพ้ไม่ควรฉีดวัคซีนนี้
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษ) กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษได้แถลงการณ์ว่าคนที่เคยมีประวัติโรคแพ้ หรือโรคภูมิแพ้ ไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทางรัฐบาลได้ซื้อมาจากบริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” และ “ไบโอเอนเทค เอสอี” หลังจากพบผู้ที่มี “อาการแพ้ปานกลาง” จากการฉีดวัคซีนสองราย ซึ่งทั้งสองเคยมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
“สตีเฟน เพาวิส” ประธานหน่วยงานบริการสุขภาพ (NHS) กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาเตือนให้ผู้มีอาการแพ้ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หลังจากสถานการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังสืบสวนกรณีผู้ป่วยสองคนนี้ ซึ่งทั้งสองคนเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ทางรัฐเล็งเห็นความสำคัญว่าต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ซึ่งทั้งสองคนกำลังรักษาตัวอยู่และเริ่มมีอาการที่ดีขึ้น
อังกฤษได้เป็นประเทศแรกที่อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และไบโอเอนเทค เอสอีเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีนให้หลายพันคน หลังจากวัคซีนได้เดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา
บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้สูงอายุเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่ทางรัฐบาลอังกฤษได้เรียงลำดับการฉีดวัคซีนก่อน โดยทางรัฐบาลได้นำเข้าวัคซีนทั้งหมด 40 ล้านโดส เพียงพอสำหรับ 20 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละคนสามารถเลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่
