ศาลรัฐบาลทหารเมียนมาพิพากษาจำคุกนางออง ซาน ซู จี เพิ่มอีก 7 ปี ทำให้เธอได้รับโทษจำคุกรวมกันทั้งสิ้น 33 ปี
นางซู จี อดีตผู้นำจากการเลือกตั้งถูกกักบริเวณในบ้านพักนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2021
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นับตั้งแต่นั้นเธอต้องเผชิญการพิจารณาคดี 18 เดือน ในความผิด 19 ข้อหา ซึ่งองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนชี้ว่าเป็นการพิจารณาคดีจอมปลอม
- ทบทวนความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ ออง ซาน ซู จี กับกองทัพเมียนมา
- ออง ซาน ซู จี ไปศาลครั้งแรก ขอประชาชนหนุนเอ็นแอลดี หลังทหารขู่ยุบ
- 18 เดือนผ่าน คณะรัฐประหารสร้างบาดแผลอะไรให้เมียนมาบ้าง
ในวันนี้ (30 ธ.ค.) เป็นการพิจารณาคดี 5 ข้อหาสุดท้ายที่นางซู จี เผชิญ ซึ่งศาลตัดสินให้เธอมีความผิดฐานทุจริตจากการไม่ปฏิบัติตามกฎเรื่องการให้รัฐมนตรีคนหนึ่งเช่าเฮลิคอปเตอร์
ก่อนหน้านี้ อดีตผู้นำการเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาได้ถูกตัดสินให้มีความผิดใน 14 ข้อหา ซึ่งรวมถึงการละเมิดกฎความปลอดภัยสาธารณะในช่วงการระบาดของโควิด การนำเข้าเครื่องรับส่งวิทยุแบบพกพา และการละเมิดกฎหมายว่าด้วยความลับราชการ
นางซู จี ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด การพิจารณาคดีในปีนี้ของเธอมีขึ้นเป็นการลับโดยไม่เปิดให้สาธารณชนหรือสื่อมวลชนเข้ารับฟัง นอกจากนี้ทีมทนายความของเธอยังถูกห้ามไม่ให้พูดคุยกับผู้สื่อข่าว
นางซู จี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพวัย 77 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการถูกจองจำที่บ้านพักในกรุงเนปิดอว์
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (Assistance Association for Political Prisoners (AAPP) ระบุว่า นางซู จี และเพื่อนสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย คือส่วนหนึ่งของชาวเมียนมากว่า 16,600 คนที่ถูกรัฐบาลทหารสั่งจำคุกนับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจการปกครอง ในจำนวนนี้ราว 13,000 คนยังคงอยู่ในเรือนจำ
เมื่อสัปดาห์ก่อน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในเมียนมา และปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด ส่วนจีนและรัสเซียงดออกเสียงในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า “การเล่นงานทางกฎหมายอย่างไม่ปรานี” ต่อนางซู จี แสดงให้เห็นว่ากองทัพเมียนมา “ใช้ศาลเป็นอาวุธ” ในการสกัดกลุ่มผู้เห็นต่างและตั้งข้อหาจอมปลอมต่อพวกเขา
การก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมาเมื่อเดือน ก.พ. 2021 ทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นประท้วงทั่วประเทศ ส่งผลให้กองทัพเข้าปราบปรามกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ยังนำไปสู่การสู้รบรอบใหม่ระหว่างชนกลุ่มน้อยติดอาวุธกับรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุวิสามัญฆาตกรรมและใช้การโจมตีทางอากาศต่อหมู่บ้านของพลเรือน คาดว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากการปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่างกับกองทัพแล้วกว่า 2,600 คน
……
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว
