คนรักแมวย่อมต้องรู้จักพฤติกรรมพิเศษแบบหนึ่ง ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนักในสัตว์เลี้ยงยอดนิยมชนิดอื่น ๆ นั่นก็คือการส่งเสียงกรนดังครืดคราดเหมือนเครื่องยนต์ขณะแมวหายใจเข้าออก หรือที่เรียกว่าการทำเสียง “เพอร์” (purring) นั่นเอง
นอกจากสัตว์ตระกูลแมวซึ่งรวมถึงเสือคูการ์และเสือชีตาห์แล้ว สัตว์จำพวกชะมดและพังพอนก็รู้จักส่งเสียงกรนครืดคราดแบบนี้เช่นกัน ซึ่งอันที่จริงมันคือการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อกล่องเสียงและกะบังลม ทั้งยังเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเหมือนกับการหายใจด้วย
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
มีหลายเหตุผลที่ทำให้น้องเหมียวส่งเสียงประหลาดแบบนี้ออกมา โดยดร. มิเกล เดลกาโด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมวจากเว็บไซต์ Feline Minds บอกว่า “ส่วนใหญ่แล้วแมว 90% ส่งเสียงกรนออกมาจากทางเดินหายใจ เพราะว่ารู้สึกเป็นสุข ปลอดภัย หรือกำลังเพลิดเพลินกับอะไรบางอย่าง เช่นได้รับสัมผัสที่พึงพอใจจากการเกาคาง หรือได้อาบแดดอุ่น ๆ”
แต่อย่างไรก็ตาม มีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้แมวส่งเสียงกรนเช่นกัน โดยดร. เคต แอนเดอร์สัน อาจารย์สัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยคอร์แนลของสหรัฐฯ บอกว่า “โดยพื้นฐานแล้ว การกรนครืดคราดคือวิธีเอาชีวิตรอดของลูกแมวแรกเกิดที่ยังไม่ลืมตาและยังหูหนวกอยู่ การทำเสียงสั่นสะเทือนที่ไม่ดังมากนักเพื่อสื่อสารกับแม่แมว จะช่วยให้พวกมันรอดจากสัตว์ผู้ล่าได้”
“เมื่อลูกแมวส่งเสียงกรน แม่แมวจะกรนตอบ ทำให้ลูกแมวที่ยังตาบอดค้นหาตัวแม่แมวจนเจอได้ วิธีนี้ยังเป็นการเชื่อมสายใยความผูกพันระหว่างแม่ลูกอีกด้วย” ดร. แอนเดอร์สันกล่าว
“ด้วยเหตุนี้ พฤติกรรมส่งเสียงกรนครืดคราดจึงมักเกิดขึ้น เมื่อเจ้าของแมวแสดงการดูแลเอาใจใส่พวกมัน หรือในเวลาที่แมวอยู่กับเพื่อนรักและเลียเนื้อเลียตัวทำความสะอาดให้กันด้วย” ดร. เดลกาโดกล่าว
แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น การส่งเสียงกรนของแมวยังมีขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ รวมทั้งเป็นการเร่งเร้า “คู่สนทนา” เพื่อให้มันได้สิ่งที่ต้องการอีกด้วย ตัวอย่างเช่นแมวอาจกรนดัง ๆ แบบมีเสียงความถี่สูงแฝงอยู่ เพื่อร้องขออาหารหรือกระตุ้นให้คนตื่นนอนและลุกขึ้นจากเตียงไว ๆ
“เสียงกรนความถี่สูงแบบเร่งเร้านี้ ฟังดูคล้ายกับเสียงทารกร้องมาก ทำให้คนที่ได้ยินรับรู้ได้ทันทีว่า แมวมีเรื่องเร่งด่วน” ดร. แอนเดอร์สันอธิบาย
ดร. เดลกาโด กล่าวเสริมว่า “แมวส่งเสียงกรนครืดคราดเวลาที่มันเครียดด้วย เช่นในเวลาที่ต้องไปพบสัตวแพทย์ และในเวลาที่มันป่วย ได้รับบาดเจ็บ หรือกำลังใกล้ตาย โดยการกรนของแมวเป็นกลไกอัตโนมัติที่ร่างกายใช้เยียวยาบรรเทาความเจ็บปวดของตนเอง”
ผลการศึกษาเมื่อปี 2001 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the Acoustical Society of America ระบุว่าเสียงกรนของแมวมีความถี่ราว 20-150 เฮิร์ตซ์ ซึ่งตรงกับช่วงคลื่นความถี่ที่แพทย์ใช้รักษาอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อและกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่นเพียงพอจะยืนยันได้ว่าเสียงแมวกรนเป็นยาวิเศษ ซึ่งอาจช่วยรักษาโรคในมนุษย์ได้
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว
