ทนายอานนท์ เดินหน้าชุมนุมใหญ่ 16 ส.ค.ไปทุกเวทีทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 นายอานนท์ นำภา และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ผู้ต้องหาในคดียุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ รวม 7 ข้อหา จากการร่วมชุมนุมกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลปล่อยตัวชั่วคราว

โดยนายอานนท์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณศาลอาญา ศาลยุติธรรมที่พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ได้วางหลักทรัพย์การประกันตัว ส่วนเงื่อนไขมีข้อเดียวอย่าไปทำอย่างที่เขากล่าวหา เราได้ยืนยันมาตลอดว่าสิ่งที่ทำมาตลอดไม่ได้ไปยุยงปลุกปั่น หรือไปทำให้ใครก่อความไม่สงบ เราชุมนุมโดยสงบมาโดยตลอด ซึ่งเงื่อนไขไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ ไม่เอารัฐประหาร เป็นไปตามเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ขอบคุณประชาชนที่มานอนเฝ้า ขอบคุณ ส.ส.ก้าวไกล ส.ส.อนาคตใหม่เดิม และ ส.ส.เพื่อไทย รวมถึงฝ่ายค้านที่แสดงความต้องการที่จะยื่นประกันผู้ต้องหาที่เหลือ โดย เราจะร่วมกันต่อสู้ใน และนอกสภา เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตามข้อเรียกร้อง

ส่วนการปราศรัยบนเวทีชุมนุมจากนี้ จะไปชุมนุมเฉพาะกิจกรรมที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเท่านั้น กิจกรรมที่ยุยงปลุกปั่นจะไม่ไป ส่วนเวทีที่พูดถึงเรื่องการยุบสภา การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรายินดีไปทั่วประเทศ ทั้งนี้ ข้อจำกัดการปราศรัยจะขัดกฎหมายอาญามาตรา 116 อย่าไปยุยงปลุกปั่น โดยไม่ชอบรัฐธรรมนูญทำไม่ได้ แต่เงื่อนไขที่เรียกร้องอยู่ในรัฐธรรมนูญทั้งหมด ทางรัฐต้องรับฟังและยุติการคุกคามเราทุกรูปแบบ โดยเราระมัดระวังตามปกติเพราะทุกเวทีที่ไปร่วมทั่วประเทศ นักเรียน นักศึกษาจัดการชุมนุมโดยสงบทุกที่ ไม่มีการยุยงปลุกปั่นอยู่แล้ว

คนที่โดนหมายจับ ถูกกล่าวหาทุกคนพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างสมภาคภูมิ เราคาดหวังกระบวนการยุติธรรมจะปกป้องพวกเราเพราะทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองทุกอย่าง ซึ่งมั่นใจตั้งแต่แรกว่าศาลจะพิจารณาอย่างเป็นธรรม และไม่เชื่อตามที่พนักงานสอบสวนกล่าวหา ซึ่งการปราศรัยทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญทุกประการ เมื่อไหร่ที่ปราศรัยหรือชุมนุมนอกรัฐธรรมนูญ โดยไม่สงบ ไม่ปราศจากอาวุธ ยินดีกลับเข้าสู่เรือนจำ
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เป็นการชุมนุมขนาดใหญ่แน่นอน ไม่ว่าจับเราหรือไม่ เพราะเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งของทั้งหมดเท่านั้น เพราะยังมีแถวสอง แถวสาม เพราะยังมีป้าๆ ที่เป็นแมีแถวสี่ ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำเกินกว่าเหตุเราจะเช็คบิล แต่ก็ต้องขอบคุณตำรวจที่ดี

“ถ้ารัฐบาลจะรับฟังเสียงของพวกเราอย่าตั้งข้อหากับพวกเรา พวกหวังดีต่อบ้านต่อเมือง ทุกองคาพยพของบ้านเมืองเราเคารพในความเห็นต่าง รวมถึงคนที่พยายามเห็นต่าง ที่จะรังแก ขอให้เห็นว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชาติ หวังดีร่วมกัน” นายอานนท์ กล่าว

ด้านนายภาณุพงศ์ กล่าวว่า รู้สึกตกใจ แต่นักสู้ย่อมมีบาดแผล การที่ประกันตัวออกมาเพื่อความปลอดภัยของเราเอง หากเข้าไปอยู่ในเรือนจำเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงต้องขอประกันตัวออกมา อย่างไรก็ตาม ตนสองคนไม่ใช่ชัยชนะ แต่ชัยชนคือพวกเราทุกคน จากนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด การที่เราทำภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่เกิดความไม่ชอบมาพากล เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิด