ตลท.สกัดหุ้นร้อน เปิดเฮียริ่ง “ห้ามซื้อขายชั่วคราว 1 วัน”

set

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มเกณฑ์กำกับการซื้อขาย เข้มระดับมาตรการระดับ 3 เสนอ ห้ามซื้อขาชั่วคราว 1 วันทำการ รับฟังความเห็น 1-12 พ.ย. 64 หวังสกัดหุ้นร้อน ลดดีกรีเก็งกำไร-ราคาวิ่งเกินพื้นฐาน

ตลาดหุ้นไทย-SET Index

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) การปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขาย ระหว่างวันที่ 1-12 พ.ย. 2564 เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนที่จะซื้อขายในหลักทรัพย์ที่สภาพการซื้อขายไม่สอดรับกับปัจจัยพื้นฐาน โดยผู้ลงทุนยังคงสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ แต่จะมีการเพิ่มเงื่อนไขบางประการในการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น

โดยจะเพิ่มเงื่อนไขการซื้อขายบางประการเพื่อจำกัดอำนาจซื้อ แบ่งเป็น 3 ระดับขั้นเริ่มจากอ่อนไปเข้ม ดังนี้

มาตรการระดับ 1 : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนซื้อ (ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance) และเสนอให้ ห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย

มาตรการระดับ 2 : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนซื้อ (ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance) และห้ามนำหลักทรัพย์ที่มีสภาพผิดปกติดังกล่าวเป็นหลักประกันในการคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และเสนอให้ ห้ามหักกลบค่าซื้อกับค่าขายภายในวัน (ห้าม Net Settlement)

มาตรการระดับ 3 : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนซื้อ (ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance) และห้ามนำหลักทรัพย์ที่มีสภาพผิดปกติดังกล่าวเป็นหลักประกันในการคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้ามหักกลบค่าซื้อกับค่าขายภายในวัน (ห้าม Net Settlement) และเสนอให้ ห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราว 1 วันทำการ

ในปี 2564 สภาพการซื้อขายมีความร้อนแรงขี้น โดยเฉพาะในหลักทรัพย์ขนาดเล็กทำให้มาตรการกำกับการซื้อขายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการกำกับดูแลในบางหลักทรัพย์ที่สภาพการซื้อขายยังคงเปลี่ยนแปลงไป โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับได้แม้หลักทรัพย์ดังกล่าวจะอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน หรือปรับเพิ่มมาตรการจนถึงระดับสูงสุดที่มีและได้ยกระดับการดำเนินการแล้วก็ตามดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น

สำหรับแนวทางในการพิจารณาหลักทรัพย์ที่เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ

1.มาตรการรายวัน (Trading Alert) และ 2.มาตรการรายสัปดาห์ (Turnover List) เมื่อหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ฯจะประกาศ ณ สิ้นวัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันทำการรุ่งขึ้น และตามระยะเวลาที่กำหนด โดยจะเริ่มจากมาตรการระดับ 1 : ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance เป็นมาตรการแรกและในระหว่างมาตรการหรือเมื่อพ้นมาตรการไปแล้วไม่เกิน 1 เดือน

หากหลักทรัพย์มีสภาพผิดปกติเข้าข่าย Trading Alert ตลาดหลักทรัพย์ฯจะเพิ่มมาตรการให้สูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ ทั้งนี้หากหลักทรัพย์ยังคงมีสภาพผิดปกติตลาดหลักทรัพย์ฯอาจพิจารณาขยายมาตรการเดิมออกไป

เพื่อให้การกำกับดูแลการซื้อขาย 1.สอดรับกับสภาพการซื้อขายที่ร้อนแรงขึ้นในปี’64 โดยมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันและเปอร์เซ็นต์ Turnover Velocity (มูลค่าการซื้อขาย/มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด) ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมาก (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ก.ย. 64 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,463 ล้านบาท ด้วยเปอร์เซ็นต์ Turnover Velocity ที่ 0.51% จากปีก่อนที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,607 ล้านบาท ด้วยเปอร์เซ็นต์ Turnover Velocity ที่ 0.42%)

2.เพิ่มประสิทธิภาพมาตรการเดิมที่ประสิทธิผลลดลง (จำนวนหลักทรัพย์ที่เข้ามาตรการในระดับสูงสุดมากขึ้นและสภาพการซื้อขายยังคงปรับตัวไม่สอดรับกับพื้นฐานแม้อยู่ในระดับมาตรการขั้นสูงสุดแล้วก็ตาม)

3.สอดคล้องกับมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่กำหนดให้การห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเป็นหนึ่งในมาตรการกำกับการซื้อขาย เช่น เกาหลี, ไต้หวัน เป็นต้น