สำรวจหุ้น IPO 11 บริษัทระดมทุนแล้วหมื่นล้าน ‘SGC’ บริษัทลูกซิงเกอร์จ่อคิวเทรด

กราฟหุ้น

สำรวจหุ้น IPO 11 บริษัทระดมทุนแล้วหมื่นล้าน ‘SGC’ บริษัทลูกซิงเกอร์จ่อคิวเทรด

สวัสดีครับ วันนี้ Prachachat Wealth เล่าเรื่องการลงทุน EP ที่ 19 ได้ทำการสำรวจบริษัทน้องใหม่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 5 เดือนแรกปีนี้ พบว่ามีมากกว่า 11 บริษัท และก็ระดมทุนไปแล้วมากกว่า 10,000 ล้านบาท  ส่วนใหญ่ราคาหุ้นค่อนข้างสูง “เหนือจอง” จากราคาหุ้นไอพีโอในวันแรก

ช่วงที่เหลือของปียังมีหลายบริษัทที่เตรียมระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็น เอสซีจี เคมิคอลส์, เบทาโกร หรือ ไทยประกันชีวิต ที่เป็นยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมในแต่ละแขนง รวมถึงบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่กำลังอยู่ในกระบวนยื่นไฟลิ่งจากสำนักงาน ก.ล.ต.

วันนี้ Prachachat Wealth มีโอกาสพิเศษได้ร่วมพูดคุยกับคุณ “บุษบา กุลศิริธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจสินเชื่อที่ Spin-off ออกมาจากบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย ไปร่วมพูดคุยกันครับ

Q : ช่วยอัพเดตความคืบหน้าการขายหุ้นไอพีโอ ตอนนี้กระบวนการอยู่ส่วนไหนแล้วครับ และก็คาดว่าจะซื้อขายวันแรกในตลาดหุ้นไทยได้ช่วงไหนครับ

ตอนนี้เราก็อยู่ในกระบวนการของการ finalize ก็คือทำให้เป็นฉบับไฟนอลสำหรับไฟลิ่ง และคาดหมายว่าเราน่าจะ submit ได้ภายในกลางเดือนมิถุนายน และคิดว่าภายในไม่เกิน 3 เดือน น่าจะจบกระบวนการแรก และขั้นถัดไปให้ทาง ก.ล.ต.พิจารณาในฉบับไฟนอลและก็อนุมัติ เรา target ภายในปีนี้แน่นอนค่ะ น่าจะเป็นช่วงไตรมาส 4/65

Q : ถ้าพูดถึงธุรกิจ เอสจี แคปปิตอลเอง ธุรกิจหลักของเรา สินเชื่อแบ่งออกเป็นกี่ประเภท และตั้งเป้าสิ้นปี New Loan และ Outstanding ไว้ยังไงบ้างครับ

เราเป็นบริษัทสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร แต่อย่างไรก็แล้วแต่ เรามีการ subscribe ในเรื่องของไลเซนส์กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้นการปฏิบัติงานจะต้องมีคุณภาพ พอร์ตโฟลิโอจะแบ่งออกด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภท ในประเภทแรกเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ อันนี้จะเป็นพอร์ตที่เราให้สินเชื่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าของทางซิงเกอร์ และเครื่องจักรต่างๆ

ถัดมาเรียกว่าเป็นคีย์โปรดักต์ ที่ทางเอสจี แคปปิตอล สร้างสรรค์เองก็คือ พอร์ตของ “รถทำเงิน” แล้วก็ถัดมาจะเป็นสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน แล้วก็อีกตัวหนึ่งที่เราเพิ่งเปิดตัวไป จะเป็นเรื่องสินเชื่อการให้ผ่อนทอง

สำหรับ New Loan สิ้นสุดปีที่แล้วที่ตัวพอร์ตโฟลิโอประมาณ 10,000 ล้านบาท สิ้นปีนี้เราจะไต่ไปที่ 15,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 50% โดยหัวหอกของการเติบโต จะมาจากพอร์ตของรถทำเงินเป็นหลัก เพราะว่าในกลุ่มของรถทำเงินเราจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการ

Q : ให้ความมั่นใจกับนักลงทุนนิดหนึ่งครับ ถ้าบริษัทเราเข้าระดมทุน จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยแล้ว อยากฝากอะไรถึงนักลงทุนกับตัวบริษัทบ้างมั้ยครับ

ในส่วนที่เป็นพอร์ตของรถทำเงิน ที่เป็นผลงาน เอสจี แคปปิตอล 100% เราเริ่มเข้ามาตั้งแต่ปี 2017 มีพอร์ตนิดเดียวเอง และในปี 2018 และปี 2019 เราประสบปัญหาในเรื่องของการที่เรามีตลาด เรามีโอกาสที่จะเติบโต แต่เราหาเงินไม่ได้ เพราะตอนนั้นเรายังอยู่ในช่วง Performance ยังไม่ค่อยดี

จากตรงนั้นเราก็มีคนให้ความเชื่อถือ ให้เงินเราในฐานะที่เป็นหุ้นกู้ ก้อนใหญ่ที่สุดที่เริ่มสตาร์ตและเครื่องติดคือ 1,500 ล้านบาท ทั้งหมดมันคือความเชื่อมั่นที่เราแบกรับเอาไว้ แล้วหลังจากนั้นเราค่อย ๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งปีนี้ เราตั้งเป้าพอร์ต 15,000 ล้านบาทแน่นอน เฉพาะรถทำเงินอย่างเดียว สิ้นไตรมาส 1/65 เราจบที่ 6,900 ล้านบาท เพราะฉะนั้น สิ้นปีนี้เราจะไต่ตัวรถทำเงินไปให้ได้ถึง 10,000 ล้านบาท

“อดีตอาจจะไม่ได้สะท้อนอนาคต แต่อย่างน้อยอดีตที่เราเคยย่ำแย่กว่านี้ เราสามารถทำได้ตามเป้าหมาย ตอนนี้เราต้องเป็นอีกขั้นหนึ่งที่จะพิสูจน์กันต่อไป”