คอลัมน์ จับกระแสตลาด
ขณะนี้นอกจากหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดมือ จะเป็นสินค้าที่มีดีมานด์สูงอย่างต่อเนื่องแล้ว
อีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูและเติบโตชนิดสวนกระแสไม่น้อยหน้า ก็เห็นจะเป็นธุรกิจบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ไม่เพียงเฉพาะผู้ประกอบการรายเดิม ๆ ที่ต่างพร้อมใจลุกขึ้นมาโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการของตัวเองกันอย่างคึกคัก เพื่อรองรับความวิตกกังวลจากไวรัสร้าย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
อีกด้านหนึ่งก็มีผู้ประกอบการรายใหม่จากหลากหลายธุรกิจ กระโดดเข้ามาร่วมวงเป็นระยะ ๆ
นางสาววงกช อยู่ประทานพร เลขาฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศุขเวช ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง ฉายภาพที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ธุรกิจฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อมีแนวโน้มเติบโตขึ้น จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการรายใหญ่กระโดดเข้ามาในธุรกิจนี้มากขึ้น และทำให้ธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและราคา
สำหรับบริการของศุขเวชขณะนี้แต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า 10 ราย/วัน โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ๆ คือ โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน โรงเรียน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ คิดค่าบริการเริ่มต้น 10 บาท/ตร.ม. และช่วงนี้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสำหรับลูกค้ารายเก่า และมีการรับประกันเรื่องการฆ่าเชื้อได้ 100%
“เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ธุรกิจฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อจะสามารถเติบโตได้ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดมากขึ้น”
ล่าสุดจากการสำรวจพบว่า มีความความเคลื่อนไหวของบริษัทต่าง ๆ ที่หันมารุกบริการนี้กันอย่างคักคัก
เริ่มจาก “เอสซีจี” เปิดตัวบริการพ่นฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัส เริ่มต้นเพียง 2,500 บาท/ครั้ง โดยมีให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ ตั้งแต่พื้นที่ขนาดเล็กไม่เกิน 80 ตร.ม. จนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่า 500 ตร.ม.
เช่นเดียวกับ สยามโกลบอลเฮ้าส์ ที่มีบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้ออยู่แล้ว ได้จัดโปรโมชั่นลดราคา เช่น พื้นที่ต่ำกว่า 50 ตร.ม. ลดเหลือ 1,999 บาท จาก 2,200 บาท หรือพื้นที่ 50-100 ตร.ม. ลดเหลือ 2,500 บาท จาก 2,800 บาท และบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในรถยนต์ส่วนบุคคล ลดเหลือ 599 บาท จากปกติ 700 บาท ตั้งแต่วันนี้-30 เมษายน 2563
ขณะที่ บริษัท เร็นโตคิล อินนิเชียล จำกัด บริษัทกำจัดปลวกและแมลงรายใหญ่ก็ได้หันมาโปรโมตบริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการจับมือกับพันธมิตร อาทิ ทรู ลดราคาพิเศษสำหรับสมาชิกทรู
แม้แต่ “เอฟเอ็น เอาท์เล็ต” จากเดิมที่เปิดแฟกตอรี่เอาต์เลตขายสินค้าแบรนด์เนมก็ขยับขยายบริการพ่นฆ่าเชื้อเพื่อรองรับโอกาสนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยอัตราค่าบริการเพียง 1,499 ต่อครั้ง (พื้นที่ไม่เกิน 50 ตร.ม.) พร้อมชูจุดขายมาตรฐานจากอังกฤษ น้ำยาฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูง ไม่มีกลิ่นฉุน ไร้สารเคมีอันตรายที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
และที่พลาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็น ความเคลื่อนไหวของบริษัทรับทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัย อพาร์ตเมนต์ รวมไปถึงบริษัทให้บริการแม่บ้านประจำสำนักงาน อีกจำนวนไม่น้อยที่ประกาศแตกไลน์ขยายบริการ ด้วยการเพิ่มบริการ “ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ” กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ล่าสุดสำหรับในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีแดง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ติดอันดับท็อปทรีของประเทศ มีบริษัทที่ปิ๊งไอเดีย ที่อาศัยจังหวะที่คนกำลังกังวลเรื่องไวรัสร้าย เปิดให้บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 โดยมีการจัดขบวนรถแห่ พร้อมเครื่องขยายเสียง พร้อมมีพนักงานตระเวนแจกแผ่นปลิวเพื่อประชาสัมพันธ์ โดยค่าบริการเพียง 20 บาท/ตร.ม. ให้บริการในเขตจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง
นี่ยังไม่นับรวมถึงธุรกิจขายเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ-น้ำยาฆ่าเชื้อ ที่สามารถซื้อเพื่อนำไปฉีดพ่นได้เองในบ้าน ในออฟฟิศ
จะเรียกว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ธุรกิจที่ได้รับความสนใจ และเฟื่องฟูมากที่สุดในยามนี้ก็คงไม่ผิดนัก
ทั้ง ๆ ที่กรมควบคุมโรค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย จะทยอยออกโรงมาเตือนเป็นระยะ ๆ ว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นภายในอาคาร บ้านเรือน ที่พักอาศัย ร้านค้า สถานที่สาธารณะ ตลอดจนถนนหนทางต่าง ๆ
นอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองแล้ว ยังอาจจะเป็นอันตรายต่อคนได้ และแนะนำว่าไม่ควรทำ
ที่สำคัญ การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อดังกล่าวไม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแต่อย่างใด
