วิกฤตหนี้…ระเบิดเวลารอปะทุ

บทบรรณาธิการ

การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหายหากก่อหนี้ดี หรือเป็นหนี้อย่างชาญฉลาด แต่ถ้าก่อหนี้จากการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ขาดวินัย ไม่มีการบริหารจัดการ กลายเป็นหนี้เสีย จะยิ่งสร้างภาระทำให้เสียหาย ไม่จำกัดแค่ระดับบุคคล แต่รวมถึงองค์กรและการก่อหนี้ของประเทศ ไม่แปลกที่ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท จะถูกจับตาเรื่องความสุจริตโปร่งใส ใช้จ่ายคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด

ในสถานการณ์ปกติยังพอทำเนา แต่ภายใต้มหันตภัยไวรัสโควิด-19 กับพิษเศรษฐกิจที่รุมเร้าต่อเนื่อง ปัญหาหนี้ท่วมเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งหนี้รัฐบาล หนี้ภาคประชาชน แม้ประเทศไทยสึนามิหนี้ยังไม่วิกฤตรุนแรง แต่ยอดหนี้ที่ทะยานเป็นเส้นกราฟพุ่งขึ้นไม่หยุด โดยเฉพาะหนี้ภาคครัวเรือน เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย คนจนเมือง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Gen X Gen Y หรือ Gen Z กำลังเป็นระเบิดเวลารอปะทุ

สัญญาณอันตรายไม่ใช่เพิ่งปรากฏ แต่ส่อแววว่าจะมีปัญหาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่าก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วง Q4/2562 ที่ผ่านมา หนี้สินภาคครัวเรือนไทยอยู่ในระดับ 13.47 ล้านล้านบาท หรือ 79.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เทียบกับ Q3/2563 ยอดหนี้รวม 13.24 ล้านล้านบาท หรือ 78.9% ของ GDP

โครงการคลินิกแก้หนี้ที่ ธปท.ริเริ่มโดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ แก้ปัญหาหนี้ส่วนบุคคล แม้เป็นจุดเริ่มต้นแก้หนี้ภาคครัวเรือนได้ แต่เนื่องจากมีเงื่อนไขและข้อจำกัดสารพัดทำให้ลูกหนี้จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึง

ล่าสุด ธปท.ต้องออกมาตรการเพิ่มเติม ให้แบงก์พาณิชย์ น็อนแบงก์ ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ด้วยการพักหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย 2-4% แก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อรถ ฯลฯ เป้าหมายหลักเพื่อสกัดหนี้เสียไม่ให้ลุกลามกลายเป็นวิกฤต

หากเป็นจริงจะช่วยแบ่งเบาภาระลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด กับเศรษฐกิจที่มีปัญหา แม้ทำให้เจ้าหนี้สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นแบงก์หรือน็อนแบงก์มีรายได้ลดลงบ้าง แต่ในภาพรวมหากมาตรการแก้หนี้ถูกแปรไปสู่การปฏิบัติผลดีน่าจะมีมากกว่าผลเสีย

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวการรณรงค์ให้คนไทยตระหนักระมัดระวังในการก่อหนีเป็นเรื่องต้องเร่งดำเนินการ โดยรัฐบาล หน่วยงานรัฐต้องทำเป็นแบบอย่าง และยกระดับความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ ปลุกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนประหยัด เก็บออม เป็นหนี้อย่างชาญฉลาด ไม่ถลำลึกจนติดหล่มไร้ทางออก