เช็กที่นี่ ! ได้เงินเยียวยา ม.33 วันไหน คนที่ตกหล่นจะได้วันไหน

เช็กเงินเยียวยา ม.33

เช็กที่นี่ ! เงินเยียวยา ม.33 โอนเข้าวันไหน ใครที่ตกหล่นจะได้วันไหน ส่วน ม.40 ในพื้นที่เพิ่มมา 16 จังหวัด รอเคาะวันเปิดรับสมัครเพิ่ม

วันที่ 5 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เริ่มโอนเงินเยียวยาตามมาตรา 33 ไปวันแรกเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) โดยลูกจ้างได้ 2,500 บาท ผ่านบัญชีธนาคารใด ๆ ก็ได้ ที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน และนายจ้างได้ 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน (แต่ไม่เกิน 200 คน) โดยนายจ้างบุคคลธรรมดา จะได้รับเงินโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ส่วนนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะได้รับผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง

ทั้งนี้ต้องเป็นผู้ที่อยู่ใน 9 กิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล คือ 1.ก่อสร้าง 2.ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 3.ศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ 4.กิจกรรม บริการด้านอื่น ๆ 5.การขายส่ง ปลีก ซ่อมยานยนต์ 6.การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 7.กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน 8.กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมทางวิชาการ 9.ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

เรียงตามเลขบัตรประชาชน

ล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้ประกันตนในกลุ่มที่เข้าเงื่อนไขได้รับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ขณะที่อีกหลายคนยังไม่ได้

ซึ่ง สปส.แจ้งรายละเอียดการโอนเงินเยียวยา ม.33 ใน 10 จังหวัด (กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา) ให้ผู้ได้รับสิทธิ 2.8 ล้านคน โดยโอนติดต่อกัน 3 วัน วันละกว่า 1 ล้านคน ดังนี้

วันที่ 4 ส.ค. 2564 โอนเงินเข้าเลขบัตรประชาชน 1024200112971 – 1620400023507

วันที่ 5 ส.ค. 2564 โอนเงินเข้าเลขบัตรประชาชน 1620400023965 – 3460700773038

วันที่ 6 ส.ค. 2564 โอนเงินเข้าเลขบัตรประชาชน 3460700774417 – 8960900002244

ส่วนผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์บัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน ขอให้รีบดำเนินการ และจะมีการโอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตน ม.33 รอบต่อไปในวันที่ 13 ส.ค. 2564

พื้นที่ประกาศเพิ่มภายหลังได้รับเมื่อไหร่?

สำหรับพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มที่เพิ่มมาอีก 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จะได้รับเงินในวันที่ 9 ส.ค. 2564 รวมมีผู้ประกันตนได้รับสิทธิจำนวน 272,746 คน และนายจ้าง 19,213 ราย

ขณะที่พื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มที่เพิ่มมาอีก 16 จังหวัด (จังหวัดที่เพิ่มใหม่ คือ กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง)

รวมกับการเยียวยา 13 จังหวัดเดิม เพิ่มอีก 1 รอบ เนื่องจากมีการขยายล็อกดาวน์ในพื้นที่ จะจ่ายเงินเยียวยาพร้อมกัน หลังวันที่ 24 ส.ค. โดยจะทยอยโอนให้ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป

ฟรีแลนซ์ ม.39-40 รับ 5 พัน

ประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น หาบเร่แผงลอย ขับแท็กซี่ และอาชีพกลางคืน (เช่น เด็กเสิร์ฟ นักร้อง นักดนตรี) และเป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท วันที่ 24 ส.ค. 2564 ผ่านบัญชีธานาคารใด ๆ ที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน

เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับประชาชาติธุรกิจว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้เปิดรับสมัครประชาชนคนไทยในพื้นที่ 13 จังหวัดที่ประกอบอาชีพอิสระ ให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อได้มีสิทธิรับเงินเยียวยาส่วนเงินงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงินจากรัฐบาล คนละ 5,000 บาท และได้ตัดยอดผู้สมัครไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2564

โดยมีผู้สมัครเข้ามา 3.1 ล้านคน ผู้สมัครจ่ายเงินสมทบแล้ว 2.4 ล้านคน ขาดอีก 7 แสนคนที่ยังไม่จ่าย ทั้งนี้ ต้องจ่ายเงินสมทบก่อนถึงจะเป็นผู้ประกันตนในมาตรา 40 อย่างสมบูรณ์ตามระเบียบ เพื่อจะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เราจึงขยายเวลาชำระเงินสมทบให้เป็นภายใน 10 ส.ค.นี้

“ส่วน 16 จังหวัดที่เพิ่มมา เราหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่าควรให้โอกาสประชาชนที่เป็นแรงงานอิสระในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้สมัครขึ้นทะเบียนมาตรา 40 เพิ่มเติมในระยะเวลาที่เท่ากันกับกลุ่มจังหวัดก่อนหน้า ซึ่งก็สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยากให้ความช่วยเหลือแรงงานอาชีพอิสระ อย่างไรก็ตาม ต้องรอหลังประชุม ครม. วันที่ 10 สิงหาคมก่อน ถึงจะได้ข้อสรุป”

เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกเงินเยียวยา

นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้พบพวกมิจฉาชีพได้จัดทำ Google forms และส่งข้อความผ่าน SMS ปลอม ไปสอบถามข้อมูล ส่วนตัว เพื่อหลวกลวงให้ผู้ประกันตนแจ้งความประสงค์รับเงินเยียวยา 2,500 บาท และให้กรอกเลขบัตรประจําตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ จนนำไปกดลิงก์เพื่อยืนยัน

เป็นการใช้ความสับสนของผู้ประกันตนมาเป็นกลลวง ที่อาจนำมาซึ่งความเสียหาย ทั้งทรัพย์สิน และการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล ของพวกมิจฉาชีพจะนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ สำนักงานประกันสังคมจึงขอเตือนให้ผู้ประกันตน โปรดระมัดระวังอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด