“การศึกษานอกจากจะทำให้ผู้คนเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองแล้ว ยังเป็นตัวกำหนดทิศทางของประเทศ เพราะถ้าหากมีการส่งเสริมการศึกษาที่ถูกทาง และสามารถวางแผนการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพได้ ประเทศนั้น ๆ ก็จะมีต้นทุนทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพในการสร้างสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้”
คำกล่าวเบื้องต้น เป็นคำพูดของ “รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม” คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ที่กำลังย้ำว่า ประเทศจะเจริญเติบโตได้ต้องมาจากทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ ดังนั้น จึงถือเป็นหน้าที่ของภาคการศึกษาที่ต้องรับผิดชอบในการสร้างคนให้มีศักยภาพ มีทักษะความรู้ความสามารถรอบด้าน
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
“รศ.ดร.วิชิตา” กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันค่อนข้างเร็วมาก ไม่ว่าจะด้วยบริบทของโลกาภิวัตน์หรือการเข้ามาของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หลายประเทศมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น ซึ่งบริบทเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ และสังคมทั่วโลก ภาคการศึกษาจึงหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงตามด้วย และต้องมีความทันสมัยไปพร้อมกับสถานการณ์โลกเพื่อให้แข่งขันได้ในระดับสากล
“ดิฉันมองว่าโควิดกระทบภาคการศึกษาเช่นเดียวกับภาคอื่น ๆ เพราะทุกคนไม่ทันตั้งตัวว่าจะต้องเปลี่ยนการเรียนการสอนไปสู่ระบบออนไลน์ ดังนั้น โควิดจึงเป็นตัวเร่งทำให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์ทั้งสิ้น เพื่อให้การเรียนไม่สะดุด ผู้เรียนสามารถที่จะเรียนจากไหนก็ได้ มีแหล่งเรียนรู้เกิดขึ้นมากมาย”
“หากย้อนกลับไปอดีต เราเคยพูดว่าจะเอาเทคโนโลยีมาใช้สำหรับการเรียนการสอน แต่เกิดขึ้นจริงช้ามาก ยิ่งพอมีโรคระบาดเข้ามา จะเห็นว่ามีการนำมาใช้อย่างรวดเร็ว ตรงนี้จึงถือเป็นหนึ่งในความท้าทายของ CMMU เช่นเดียวกัน
ไม่ใช่แค่การมุ่งหน้าสู่การเรียนออนไลน์อย่างเดียวแต่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคนิวนอร์มอลทุกด้าน อาจารย์ทุกท่านต้องปรับเนื้อหาต้องคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้เรียนเป็นหลัก ปรับใช้วิธี interaction ให้การเรียนการสอนมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้จะต้องสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ทั้งบุคลากร และนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง”
ถึงตรงนี้ “รศ.ดร.วิชิตา” กล่าวอีกว่า สำหรับ CMMU ก่อตั้งขึ้นมาปีนี้เป็นปีที่ 25 แล้ว ซึ่งเป็นปีที่เราต้องการสะท้อนภาพของการเป็นสถาบันการศึกษาที่ทันสมัย (Modern Business School) ที่สามารถก้าวทันต่อทุกการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ผ่านมามีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนมาอย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีเครือข่ายอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ และเป็นมืออาชีพ ตลอดจนพาร์ตเนอร์เครือข่ายที่พร้อมจะส่งต่อองค์ความรู้ในการศึกษาด้านการจัดการธุรกิจ
“เนื่องจากพันธกิจของเราคือการสร้างผู้นำองค์กร หรือพัฒนาผู้นำองค์กรที่มีศักยภาพให้สามารถไปสู่การเป็นนักธุรกิจ เป็นผู้ประกอบการ ทีมบริหาร หรือเป็นส่วนหนึ่งของทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนภาคธุรกิจในองค์กรชั้นนำของโลก”
“สำหรับการสะท้อนภาพของความทันสมัย เรามีเป้าหมายผลิตบุคลากรเข้าสู่ภาคธุรกิจ ถ้าเราเปรียบเทียบโลกธุรกิจเหมือนเกมกีฬา ในทุกเกมจะมีผู้เล่นที่เป็น MVP (Most Valuable Player) และในทุกเกมธุรกิจก็ต้องการผู้เล่นที่เป็น MVP คือผู้เล่นที่สามารถหาโอกาสได้มากกว่าคนอื่น มีความรู้ความสามารถรอบด้าน และสามารถนำความรู้ไปใช้ในบริบทที่แตกต่างกันไปได้ แต่พื้นฐานต้องเป็นมืออาชีพจึงกล่าวได้ว่า สถาบันของเราจะต้องปั้น MVP ทั้งระบบ”
ดังนั้น เมื่อมามองคุณลักษณะของ MVP จึงประกอบด้วย
หนึ่ง Modern ความทันสมัยการเรียนการสอนของเราต้องตอบโจทย์ทุกภาคส่วนของธุรกิจ ด้วยการพัฒนาเนื้อหาการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ ก้าวทันทุกความเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น หลักสูตร (Curriculum) จะมีทั้งหลักสูตรภาษาไทยที่ครอบคลุมสาขาวิชาที่เป็นพื้นฐานของธุรกิจ เช่น สาขาการตลาด สาขาการเงินและสาขาวิชาที่เฉพาะเจาะจง เช่น สาขาการจัดการธุรกิจอาหาร เป็นต้น
ในส่วนของหลักสูตรนานาชาติจะมีหลักสูตร Double Degree คือผู้เรียนจะได้รับ 2 ปริญญา เมื่อสำเร็จการศึกษา เพราะเรามีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง
ที่สำคัญ ยังมีหลักสูตรที่ผลิตคนทำงานให้ตอบโจทย์สังคม และเทรนด์ปัจจุบัน ยกตัวอย่าง หลักสูตร Managing for Sustainability (MFS) ในระดับปริญญาโท เป็นหลักสูตรการบริหารจัดการ การเติบโตเพื่อความยั่งยืน
“ขณะนี้เรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืน ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญมาเรื่อย ๆ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ทางหน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศเล็งเห็นว่า CMMU มีองค์ความรู้ มีงานวิจัยเชิงความรู้เกี่ยวกับอาเซียน จึงให้ทุนจัดตั้งศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษา และการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue : ACSCSD)
เพื่อประสานงานการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศสมาชิกอาเซียนให้บรรลุเป้าหมายสหประชาชาติ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2019 ผู้เรียนหลักสูตรนี้จะได้เข้าใจประเด็น และโจทย์ที่สังคมโลกให้ความสำคัญ”
นอกจากหลักสูตรดังกล่าว รูปแบบ และวิธีการเรียนการสอนจะต้องทันสมัยด้วย จึงมีการจัดให้มีการเรียนการสอนเป็นแบบ hybrid learning หรือการผสมผสานบรรยากาศในห้องเรียนที่มีความหลากหลายด้วยอาจารย์ และนักศึกษาที่มีทั้งชาวไทย และต่างชาติ ขณะที่จำนวนนักศึกษาก็มีขนาดพอเหมาะ อาจารย์สามารถดูแลทั่วถึง ทั้งยังเน้นให้นักศึกษามีส่วนร่วมปฏิบัติจริง ไม่ใช่แค่เรียนจากตำรา
ขณะเดียวกัน อาจารย์ผู้สอนที่ CMMU จะมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติทุกท่านจบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำจากทั่วโลกมีความเชี่ยวชาญในวิชาที่สอนเป็นอย่างดี อาจารย์ทุกท่านค่อนข้างสมัยใหม่ เปิดกว้างรับฟัง และพร้อมให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาทั้งเรื่องการเรียนหรือเรื่องธุรกิจ
รวมไปถึงมีการเชิญอาจารย์พิเศษที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจหลากหลายรูปแบบมาแลกเปลี่ยนความรู้ในห้องเรียนอีกด้วย ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนนำเทคโนโลยีมาประกอบเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
สอง Versatile-multidisciplinary ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันองค์กรต้องการคนที่ทำงานหลายอย่าง มีทักษะรอบด้าน สามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงได้ดี ฉะนั้น ดิฉันและบุคลากรทุกคนเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง แต่บางคนอาจยังค้นหาไม่เจอ
ดังนั้น เราจะเป็นตัวช่วยที่จะดึงศักยภาพของนักศึกษาออกมาให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งพัฒนาทักษะที่จำเป็นในด้านการจัดการธุรกิจให้นักศึกษามีความรู้ ความสามารถด้านการจัดการครบรอบด้าน อาจารย์ของเราจะเตรียมความพร้อมให้นักศึกษา พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการทำธุรกิจจากประสบการณ์ และกรณีศึกษาที่น่าสนใจในขณะนั้น ๆ เพื่อนักศึกษาจะได้รับทั้ง soft and technical skill เพื่อนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง
“ดิฉันเชื่อว่าความสามารถในการจัดการรอบด้าน ต้องมีครบทั้ง mindset, skill set, tool set คือ ใจต้องไปก่อน ตัวเองต้องรู้ว่าเกิดความเปลี่ยนแปลง และต้องรับรู้ว่า ตัวเองต้องพัฒนา เราจะมีคลาสในการพัฒนา mindset จากนั้นจึงค่อยมาพัฒนา skill set ซึ่งเป็นเรื่องทักษะการตัดสินใจ ทักษะการแก้ปัญหา ฯลฯ จากนั้นจะต้องทำให้เกิด tool set ทักษะชุดความคิด เครื่องมือต่าง ๆ ที่จะนำไปใช้เมื่อก้าวสู่โลกธุรกิจ”
สาม Professional ทุกสาขาวิชาที่ CMMU ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน AACSB ที่มีมหาวิทยาลัยเพียง 5% ของโลกที่ได้รับการรับรอง และปีนี้ CMMU ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 เราผลิตบุคลากรที่ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจหลากหลายประเภท เรามีสมาคมศิษย์เก่าที่รวมรุ่นพี่รุ่นน้องตลอด 25 ปีของ CMMU ไว้ด้วยกัน ส่งผลให้เครือข่ายของ CMMU ค่อนข้างแข็งแกร่ง มั่นใจได้ว่า CMMU คือ สถาบันการศึกษาที่เป็นมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญ มีความชำนาญในด้านการจัดการธุรกิจอย่างแท้จริง
ผลตรงนี้ จึงทำให้ “รศ.ดร.วิชิตา” เชื่อว่า สิ่งรอบ ๆ ตัวของเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่ทำงานในภาคธุรกิจ ดังนั้น ถือว่าเราต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงด้วย เราจึงต้องสร้างทรัพยากรคนที่มีศักยภาพ เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม
