20 อันดับประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ปี 2023 จากการสำรวจ Expat Insider 2023 โดย InterNations ที่สำรวจความคิดเห็นชาวต่างชาติกว่า 12,000 คน ที่อยู่อาศัยใน 181 ประเทศทั่วโลก ผลสำรวจปรากฏว่า ประเทศไทยติดอยู่ในท็อป 10 ด้วย
หลายคนอาจกำลังวางแผนย้ายประเทศเพื่อไปทำงาน หรือใช้ชีวิตในต่างแดน และกำลังมองหาประเทศที่น่าอยู่และเหมาะสำหรับการโยกย้ายไปอาศัย ทาง InterNations ได้สำรวจความคิดเห็นของชาวต่างชาติเกือบ 12,000 คนทั่วโลก เพื่อจัดอันดับสถานที่น่าอยู่อาศัยที่ดีที่สุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
โดยปีนี้ได้คัดเลือกความคิดเห็นของชาวต่างชาติ 177 สัญชาติ ที่อาศัยอยู่ใน 181 ประเทศทั่วโลก มาวิเคราะห์จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณภาพชีวิต ความสะดวกในการตั้งถิ่นฐาน การทำงาน ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล และอื่น ๆ
เม็กซิโกครองแชมป์ต่อเนื่องปีที่ 2
ประเทศที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติในปี 2023 ได้แก่ เม็กซิโก ซึ่งครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดย 91% ของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่ให้ความเห็นว่าพวกเขามีความสุขกับการใช้ชีวิตทางตอนใต้ของเม็กซิโก
Malte Zeeck ผู้ก่อตั้ง InterNations เผยว่า เม็กซิโกเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติมานานแล้ว สะท้อนจากการติดอันดับ 1 ใน 5 เสมอ นับตั้งแต่เราทำการสำรวจความคิดเห็นครั้งแรกเมื่อ 10 ปีก่อน โดยความนิยมของเม็กซิโกที่มีอย่างต่อเนื่องในหมู่ชาวต่างชาติ มีสาเหตุหลักมาจากประสิทธิภาพที่โดดเด่นทั้งด้านการเงินส่วนบุคคล และความสะดวกในการตั้งถิ่นฐาน
ตัวอย่างเช่น เม็กซิโกเป็นที่ที่ชาวต่างชาติทั่วโลกพบว่าสามารถทำความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ง่ายที่สุด คนในพื้นที่ยินดีต้อนรับเป็นอย่างดี อีกทั้งยังกล่าวถึงประชากรพื้นเมืองว่าเป็นมิตรที่สุดในโลกอีกด้วย เมื่อรวมกับค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำและสภาพอากาศที่ดี ทำให้เม็กซิโกกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย เม็กซิโกยังคงมีปัญหาใหญ่ด้านความปลอดภัยทั้งสำหรับคนในท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ในปี 2022 เม็กซิโกรั้งท้ายการจัดอันดับจุดหมายปลายทางด้านความปลอดภัย โดยอยู่ในอันดับที่ 49 จากทั้งหมด 52 ขณะที่ปีนี้มาอยู่ที่ 49 จาก 53 ประเทศ ทั้งนี้ ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถามในปี 2023 จำนวน 18% จากทั้งหมด รู้สึกว่าเม็กซิโกไม่ปลอดภัย
ปานามา ม้ามืด คว้าอันดับ 3
อันดับ 2 ประเทศน่าอยู่ที่สุดสำหรับชาวต่างชาติในปี 2023 ได้แก่ สเปน ซึ่งขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 5 ในปี 2022 นับตั้งแต่การสำรวจความคิดเห็นครั้งแรกในปี 2014 สเปนติดอันดับ 1 ใน 10 ด้านคุณภาพชีวิตมาโดยตลอด
ชาวต่างชาติมีความสุขกับวัฒนธรรมและสถานบันเทิงยามค่ำคืนในสเปนมากถึง 88% นอกจากนี้ ชาวต่างชาติกว่า 91% รู้สึกมีความสุขกับการเล่นกีฬาและกิจกรรมสันทนาการ เนื่องจากสเปนมีสภาพอากาศเป็นอันดับ 3 จึงเหมาะแก่การออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ
ต่อกันที่อันดับ 3 ได้แก่ ปานามา ด้าน Malte Zeeck เผยว่า ในปี 2022 ปานามาไม่ได้รับการเสนอชื่อในแบบสำรวจเลย เนื่องจากขาดผู้ตอบแบบสอบถามที่อาศัยอยู่ที่นั่นในปีนั้น และการกลับมาติดอันดับอีกครั้งของปานามาในปีนี้นับว่าสร้างความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะผลการสำรวจอยู่ในอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยปานามาอยู่ในอันดับ 4 ด้านความสะดวกสบายในการใช้จ่าย และอยู่ในอันดับ 8 ด้านการเงินส่วนบุคคล
ค่าครองชีพเป็นปัจจัยลบของอเมริกา
ขณะที่สหรัฐอเมริกามีอันดับลดลงอย่างมากในปีนี้ โดยหล่นจากอันดับ 14 ในปีที่แล้ว มาเป็นอันดับ 30 ในปีนี้ Zeeck กล่าวว่า ด้านความสามารถในการจ่ายของระบบขนส่งสาธารณะ ขยับจากอันดับที่ 47 มาอยู่อันดับที่ 51 ส่วนด้านความเป็นมิตรได้อันดับที่ 26 ซึ่งถือว่าอยุ่ในระดับปานกลาง
ขณะเดียวกันบางด้านมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือการงาน ชาวต่างชาติที่อาศัยในสหรัฐ มีความพึงพอใจต่อค่าครองชีพและความสามารถในการจ่ายค่าที่อยู่อาศัยลดลง รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ตลาดงานในท้องถิ่น สภาวะเศรษฐกิจ และความมั่นคงในอาชีพของตนเอง
ประเทศกลุ่มนอร์ดิกในมุมมองที่ขัดแย้ง
หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจจากผลการสำรวจในปีนี้คือ ประเทศที่ได้รับการขนานนามว่ามีความสุขที่สุดในโลกเป็นอันดับต้น ๆ อย่างนอร์เวย์ กลับอยู่อันดับ 52 จาก 53 ประเทศ
ดัชนีความสุขโลกอ้างอิงจากข้อเท็จจริงที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลทางสถิติจากแหล่งข้อมูลที่เป็นทางการ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าข้อมูลในดัชนีความสุขโลกครอบคลุมสี่มิติ ได้แก่ ความสงบสุขและความปลอดภัย เช่น อัตราการฆาตกรรม, เสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เช่น การมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย, คุณภาพชีวิต เช่น คุณภาพอากาศ และการศึกษา การสื่อสาร ข้อมูลและวัฒนธรรม เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
“ในทางกลับกัน แบบสำรวจ Expat Insider ไม่ได้วัดจากแหล่งข้อมูลภายนอก เราเพียงสอบถามผู้คนเกี่ยวกับความพึงพอใจส่วนตัวเกี่ยวกับบางแง่มุมของชีวิตประจำวันในต่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้บางส่วนค่อนข้างคล้ายกับปัจจัยที่ระบุไว้ในดัชนีความสุขโลก เช่น คุณภาพอากาศ ความสะดวกในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และความปลอดภัยส่วนบุคคล ดังนั้น ความคิดเห็นส่วนตัวของชาวต่างชาติมักจะเห็นด้วยกับสถิติของบุคคลที่สามที่เป็นกลาง” Zeeck กล่าว
แต่จากข้อมูลของ Zeeck เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติไม่มีความสุขในนอร์เวย์และประเทศในกลุ่มนอร์ดิกอื่น ๆ อาจเป็นสิ่งที่ไม่ได้วัดในดัชนีความสุขโลก ซึ่งก็คือความสะดวกในการตั้งถิ่นฐาน การพยายามผูกมิตรกับคนในท้องถิ่น รวมถึง GDP ต่อหัวที่สูง
คูเวตอันดับต่ำสุดตลอดทศวรรษ
สำหรับประเทศที่ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่น่าอยู่สำหรับชาวต่างชาติเป็นอันดับที่ 53 หรืออันดับสุดท้าย ได้แก่ คูเวต ซึ่งไม่เพียงอยู่ในอันดับสุดท้ายทั้งในปี 2022 และ 2023 เท่านั้น แต่ยังติดอันดับประเทศที่ได้รับการจัดอันดับแย่ที่สุดอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
การจัดอันดับแบบสำรวจของ InterNations โดยรวมขึ้นอยู่กับปัจจัยการให้คะแนนที่แตกต่างกันถึง 56 ปัจจัย และในปี 2023 คูเวตมักอยู่ในห้าอันดับสุดท้ายมากกว่า 30 รายการ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มีชาวต่างชาติเพียง 43% เท่านั้นที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตในคูเวต เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 72%
หาเพื่อนต่างแดน
นอกจากนี้ Expat Insider 2023 ยังสำรวจด้านความยากง่ายในการหาเพื่อนในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากคนที่ต้องการย้ายไปอยู่ต่างประเทศจำเป็นต้องรู้ว่าที่ใดที่พวกเขาสามารถหาเพื่อนได้อย่างรวดเร็ว
Zeek กล่าวว่า เชื่อว่าความง่ายในการหาเพื่อนในต่างประเทศนั้นเชื่อมโยงกับความเป็นมิตรของประชากรและการเปิดกว้างต่อชาวต่างชาติ โดยประเทศ 5 อันดับแรกในหมวดหมู่การหาเพื่อนง่ายที่สุด ได้แก่ ปานามา เม็กซิโก เคนยา บราซิล และฟิลิปปินส์ ส่วนประเทศ 5 อันดับแรกสำหรับการผูกมิตร ได้แก่ เดนมาร์ก ออสเตรีย คูเวต นอร์เวย์ และเยอรมนี
20 อันดับประเทศน่าอยู่สำหรับชาวต่างชาติ ปี 2023
1.เม็กซิโก
2.สเปน
3.ปานามา
4.มาเลเซีย
5.ไต้หวัน
6.ไทย
7.คอสตาริกา
8.ฟิลิปปินส์
9.บาห์เรน
10.โปรตุเกส
11.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
12.โอมาน
13.อินโดนีเซีย
14.เวียดนาม
15.บราซิล
16.ฟินแลนด์
17.โคลัมเบีย
18.เคนยา
19.ลักเซมเบิร์ก
20.ออสเตรเลีย
อ้างอิง : Forbes
