35 ปีแห่งการสร้างรากฐาน จากเนสท์เล่สู่เยาวชน ภายใต้ร่มเงามูลนิธิดวงประทีป

เนสท์เล่ ประเทศไทย หนุนเยาวชนของชาติสู่ความยั่งยืน มอบทุนการศึกษาผ่านมูลนิธิดวงประทีปมานานกว่า 35 ปี เพื่อสร้างรากฐาน สานความมั่นคง จัดกิจกรรมอาสาสมัครของพนักงาน พร้อมส่งต่อโอกาสสู่ชีวิตใหม่

วัยเด็กและวัยรุ่นคือรากฐานของชีวิต และจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ แต่หลายคนอาจเติบโตมากับ “โอกาส” ที่ไม่เท่าคนอื่น อันเนื่องมาจากสถานการณ์ครอบครัวที่ไม่เป็นใจ โอกาสที่ได้รับการหยิบยื่นจากภายนอกครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้แก่เยาวชนหลายคนในประเทศไทย

“นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์” ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก เนสท์เล่มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

โดยในด้านสังคมนั้น นอกจากการผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และการให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่คนในชุมชนทุกวัยอย่างต่อเนื่อง เนสท์เล่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนเพื่อให้สามารถเติบโตไปเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้สังคมแข็งแกร่ง

เนสท์เล่จึงมุ่งมั่นในการสนับสนุนและเปิดโอกาสแก่เด็กและเยาวชนผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิดวงประทีปมาเป็นระยะเวลากว่า 35 ปี เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยโอกาส ดังตัวอย่างของครูบราวน์และครูบุญชัย ที่ได้เปลี่ยนบทบาทจากผู้รับในวันนั้นสู่ผู้ให้ในวันนี้จากโอกาสดี ๆ ที่ได้รับซึ่งยังมีเด็กและเยาวชนอีกหลายชีวิตที่ต้องการโอกาสจากสังคม การโอบอุ้มมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ช่วยให้ค้นพบศักยภาพตัวเอง และสร้างชีวิตที่มั่นคง

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด จึงได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิดวงประทีป ตั้งแต่ พ.ศ. 2532  โดยให้การสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาคารเรียน จัดหาสื่อการเรียน การสอน ห้องคอมพิวเตอร์ รวมถึงการให้ทุนสำหรับการจ้างครู ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานชีวิตอันมั่นคงให้กับเด็ก และเยาวชน อีกทั้งยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ และเสริมสร้างอนาคตให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต

ตัวอย่างของผู้ที่ได้เติบโตมากับการสนับสนุนของเนสท์เล่ผ่านมูลนิธิดวงประทีป ได้แก่ “นายประกอบ ส่งประดิษฐ์” และ “นายบุญชัย รังสรรค์ภัทร” บุคคลที่ได้รับการดูแลจากมูลนิธิดวงประทีป ได้รับการศึกษาและพัฒนาศักยภาพจนประสบความสำเร็จ สามารถส่งต่อพลังให้กับเยาวชนคนอื่นอีกมากมาย ทั้งเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นถัดไปได้เป็นอย่างดี

นายประกอบ ส่งประดิษฐ์ หรือที่เด็ก ๆ ในมูลนิธิฯ เรียกว่า “ครูบราวน์” ได้รับโอกาสด้านการศึกษาและการฝึกวิชาชีพ ทำให้ค้นพบศักยภาพของตนเองในด้านศิลปะและการทำอาหาร จากเด็กยากจนที่ไม่เคยมีโอกาสสัมผัสความอร่อยของเบเกอรี่ สู่ครูวิชาชีพที่มีฝีมือการทำขนม ด้วยปณิธานอันแรงกล้าที่อยากให้น้อง ๆ เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง ไม่ว่าสถานการณ์ในชีวิตจะเป็นอย่างไร

ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่การดูแลของมูลนิธิดวงประทีปก็รู้สึกได้เลยว่าที่นี่ไม่ใช่มูลนิธิ แต่เป็นครอบครัวของเรา หากไม่ได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในมูลนิธิดวงประทีปก็นึกภาพตัวเองในปัจจุบันไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง นายประกอบ กล่าว

“มูลนิธิฯ ไม่เพียงมอบโอกาส แต่ยังมอบสภาพแวดล้อม ความรัก ความเมตตา ศูนย์กาญจนบุรีจะไม่มีรั้ว แต่เป็นการล้อมรั้วด้วยรักที่ทำให้เยาวชนรู้สึกอยากอยู่ที่นี่ และเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ มั่นคงทางจิตใจ เพราะได้รับความรักอย่างเต็มที่ ตลอดเวลาที่ผ่านมายังได้เห็นความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องของภาคเอกชนอย่างเช่นการที่เนสท์เล่เข้ามามีบทบาทสนับสนุนด้านการศึกษา ซึ่งตัวครูบราวน์เองก็เห็นเนสท์เล่มาตั้งแต่แรกที่เข้ามาจนถึงทุกวันนี้ ความช่วยเหลือที่ต่อเนื่องนี้สร้างความผูกพันและความอุ่นใจให้กับเด็ก ๆ และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ”

ครูบราวน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิเมื่ออายุ 12 ปี และได้รับการดูแลจนจบการศึกษาด้านพัฒนาสังคมและชุมชน รวมถึงการสอนทักษะวิชาชีพด้านการทำขนมและหัตถกรรม ปัจจุบันครูบราวน์ทำงานที่มูลนิธิฯ โดยทำหน้าที่เป็นครูวิชาชีพ ทั้งดูแลเด็กและสอนวิชาชีพให้แก่เด็กในมูลนิธิดวงประทีป ด้านการทำขนมเบเกอรี่และสบู่ พร้อมทั้งเป็นที่พึ่งทางใจให้แก่เด็กและเยาวชน พร้อมรับฟังปัญหาและเป็นที่ปรึกษาอยู่เสมอเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักและเมตตาให้แก่เยาวชนเพื่อให้เติบโตขึ้นได้อย่างมั่นคง

นายบุญชัย รังสรรค์ภัทร ได้รับโอกาสพลิกชีวิตจากมูลนิธิดวงประทีปตั้งแต่อายุ 18 ปี และใช้โอกาสนั้นพัฒนาตนเองจนได้รับทุนไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นและฝึกฝนทักษะด้านภาษาจนปัจจุบันทำงานเป็นครูที่โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเอเชีย ATP โครงการพัฒนาศักยภาพสู่ความสำเร็จ รับหน้าที่ทั้งสอนภาษาญี่ปุ่นและดูแลให้คำปรึกษาเด็ก ๆ ในตำแหน่งหัวหน้าแผนกปกครองและพัฒนานักเรียน

“มูลนิธิดวงประทีปเต็มไปด้วยคำว่าโอกาส และทำให้ผมได้เติบโตมาพร้อมกับความรักและความโอบอ้อมอารีเสมอมา และการที่เนสท์เล่ได้เข้ามามีบทบาทสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่องนั้นไม่ใช่แค่การให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือสิ่งของ แต่เป็นการให้ชีวิตใหม่แก่เด็กหลาย ๆ คนที่ต้องการโอกาส โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่สามารถเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตให้หลาย ๆ คน อย่างเช่นผมในวันนั้น ทำให้ผมรู้สึกประทับใจและเกิดแรงบันดาลใจที่จะส่งต่อโอกาสที่ดีเหล่านี้ให้แก่น้อง ๆ รุ่นถัดไปในทุกวันนี้” นายบุญชัย กล่าว

“นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ” กรรมการผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป ที่เป็นทั้ง “ครูประทีป” และ “แม่ประทีป” ของเด็กและเยาวชนจำนวนมาก กล่าวว่า มูลนิธิดวงประทีปมุ่งมั่นให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในชุมชนที่ยากจน รวมทั้งการฝึกฝนวิชาชีพและอบรมการฝีมือ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาเป็นพลเมืองดีที่มีวิชาความรู้ มีความสามารถที่จะทำมาหาเลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้ต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเนสท์เล่ที่อยู่เคียงข้างมูลนิธิฯ มาตลอด 35 ปี เป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาสกับเยาวชนได้รับการดูแลฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นพลังสำคัญที่ทำให้มูลนิธิฯ มีเรี่ยวแรงและสร้างความเข้มแข็งให้เด็กและเยาวชน สร้างรากฐานที่ดีและยั่งยืนสู่สังคม

สำหรับ “เนสท์เล่” ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเวเวย์ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 188 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานกว่า 270,000 คน มีผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ไมโล แม็กกี้ ตราหมี และมิเนเร่