ปุ๋ยปาล์มราคาลด 25% พาณิชย์จัดทีมลุยตรวจเข้มสต๊อกเอกชน 2 บริษัท

ปุ๋ยปาล์มราคาลด 25%

พาณิชย์จัดทีมลุยตรวจเข้มปริมาณ การจำหน่ายปุ๋ย “เทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์-ไทยเซ็นทรัลเคมี” พบ ปริมาณเต็มโกดังเพียงพอถึงกลางปี’66 ราคาปรับลดลงแล้ว ปุ๋ยปาล์มลด 25%

วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังจากร่วมกับนางกาญจนา ชมมี พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจโรงงานของผู้นำเข้าและผู้ผลิตปุ๋ยเคมีรายใหญ่ 2 ราย ได้แก่ บริษัทเทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด และบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมีจำกัด (มหาชน) ณ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และร่วมกับนายวีระพงศ์ สืบค้า พาณิชย์จังหวัดปทุมธานี

โดยจากการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมีในเขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ไม่พบการกักตุนหรือการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ โดยปริมาณสต๊อกปุ๋ยเคมี ทั้งสูตรหลักและสูตรทางเลือก มีเต็มโกดัง รวมทั้งสองแห่งกว่า 1 แสนตัน หรือกว่า 2 ล้านกระสอบสามารถผลิตและจำหน่ายได้ถึงต้นปีหน้า ส่วนราคาก็ได้ปรับลดลงมาเมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี

รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งวิกฤตด้านพลังงานและการขนส่งสินค้ากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบปุ๋ยเคมีที่ไทยต้องนำเข้าปุ๋ยเคมีเกือบ 100% ปรับสูงขึ้น

อีกทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. 65 ส่งผลกระทบต่อปริมาณปุ๋ยเคมีในตลาดโลก เนื่องจากรัสเซียเป็นแหล่งผลิตปุ๋ยสำคัญของโลก รวมทั้งเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 3 ของไทยเมื่อปี 2564 จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วง ม.ค.-ก.พ. 65 การนำเข้าปุ๋ยของไทยลดลงประมาณ 50% กระทรวงพาณิชย์จึงได้มีหารือกับผู้นำเข้าและผู้ผลิต เพื่อหาแหล่งนำเข้าใหม่ ๆ ตลอดจนปรับโครงสร้างราคาเพื่อให้มีนำเข้ามามากขึ้น

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังมีนโยบายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกรมการค้าภายในเชื่อมโยงการซื้อปุ๋ยจากแหล่งผลิตสำคัญ เช่น ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะไปเยือนระหว่างวันที่ 27-31 ส.ค. 65 ช่วยให้มีการตกลงซื้อปุ๋ยจากบริษัทซาบิกและบริษัทมาเดนของซาอุดีอาระเบียรวม 425,000 ตัน

ทำให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปริมาณสต๊อกปุ๋ยทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้น จากประมาณ 9 แสนตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี เป็น 1.4 ล้านตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 56% จึงขอให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะมีปุ๋ยใช้อย่างเพียงพอ

สำหรับราคาแม้จะยังอยู่ระดับที่สูง แต่จากปริมาณที่เพียงพอทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาระหว่างผู้ผลิตและผู้จำหน่าย และจากสถานการณ์ราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลกที่ปรับลดลงขณะนี้ ทำให้ราคาปุ๋ยเคมีในประเทศได้ปรับลดลง อาทิ ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ซึ่งเป็นสูตรที่ใช้กันมากที่สุดราคาได้ปรับลดลงมาประมาณ 18-20% และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ซึ่งนิยมใช้ในการปลูกปาล์มน้ำมัน ราคาได้ปรับลดลงมาประมาณ 25%

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามและกำกับดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้มีการสำรวจราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีและแจ้งมายังกรมการค้าภายในเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร

ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย จำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้ประชุมหารือและติดตามสถานการณ์ร่วมกับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร โดยขอให้สมาคมร่วมสอดส่อง ดูแล และกำชับไปยังตัวแทนจำหน่ายให้ขายปุ๋ยเคมีในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน ห้ามฉวยโอกาสขายแพงเกินสมควร ทั้งนี้ หากพบการฉวยโอกาสจะถูกเพิกถอน หรือระงับการเป็นตัวแทนจำหน่าย

นอกจากนี้ จะมีการเจรจากับประเทศที่เป็นแหล่งผลิตปุ๋ยเคมีต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงการซื้อปุ๋ยเพิ่มเติมอีก เช่น จีน ที่คาดว่าจะเปิดประเทศมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดต้นทุนปุ๋ยเคมีให้แก่เกษตรกรต่อไป กรณีเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะมีการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่