ราคาน้ำมันดิบ (8 พ.ค. 66) ปรับเพิ่ม หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Johannes EISELE / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือน เม.ย. สูงกว่าเดือน มี.ค. ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและวิกฤตธนาคาร อีกทั้งนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในการประชุมนโยบายในเดือน มิ.ย.

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 5 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 71.34 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.78 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 75.30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.80 เหรียญสหรัฐ

Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 5 พ.ค. ปรับลดลง 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 588 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 4 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 157 แท่น ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 0.13% แตะระดับ 101.19 ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาถูกลง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคจะปรับตัวลดลง ในขณะที่อุปทานจากไต้หวันปรับเพิ่ม หลังจากเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงโรงกลั่น

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับลดลง 3.24% ต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 แตะระดับ 7.79 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 9 สัปดาห์