ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดคาดสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพดานหนี้ได้
วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความมั่นใจว่าข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ จะบรรลุผลภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และคลายความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันของประเทศ
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 17 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 72.83 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.97 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 76.96 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.05 เหรียญสหรัฐ
รายงานสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เดือน พ.ค. 66 รายงานคาดการณ์อุปสงค์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และคาดว่าจะสูงกว่าอุปทานน้ำมันดิบได้ราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยในปีนี้ความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะเติบโตมากสุด โดยคิดเป็นร้อยละ 60 ของอุปสงค์ทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 พ.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 467.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินมีแนวโน้วปรับตัวลดลงจากการประกาศมาตรการด้านภาษีใหม่ในจีน ท่ามกลางอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอินโดนีเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเกาหลีใต้