ราคาน้ำมันดิบ (2 ส.ค. 66) ปรับลด หลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่า

ราคาน้ำมันดิบร่วง
REUTERS/Fabian Bimmer

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่า

วันที่ 2 สิงหาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นกว่าร้อยละ 0.4 ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับผู้นำเข้าที่ถือสกุลเงินอื่น

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 1 ส.ค. 2566 อยู่ที่ 81.37 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.43 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 84.91 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.65 เหรียญสหรัฐ

               

รัฐบาลและธนาคารกลางของจีนเผยในวันอังคารที่ผ่านมาว่า จีนจะโน้มน้าวและสนับสนุนให้สถาบันการเงินสนับสนุนนโยบายทางการเงินที่ตรงเป้าหมายและหลากหลายแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ตลาดจับตาการประชุมของ OPEC+ ในวันที่ 4 ส.ค. ว่าจะมีการออกนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่ โดยนักวิเคราะห์คาดซาอุฯ จะขยายระยะเวลาในการอาสาปรับลดกำลังการผลิตในเดือน ก.ย. 66 เพิ่มอีก 1 เดือน

หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.ค. 66 ปรับตัวลดลง 15.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 1.37 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการนำเข้าน้ำมันเบนซินในญี่ปุ่นเดือน มิ.ย. 66 แตะระดับสูงสุดกว่า 0.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่น ท่ามกลางการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ยังตึงตัว ประกอบกับสภาพอากาศที่ปรับตัวดีขึ้นในอินเดีย และการผ่อนคลายมาตรการห้ามตกปลาในทะเลจีนใต้ ช่วยสนับสนุนอุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาค