
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลงเกินคาด ขณะที่ตลาดยังกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว
วันที่ 10 สิงหาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ส.ค. 66 ปรับลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2015 สู่ระดับ 216.4 ล้านบาร์เรล และต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับทรงตัว
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสเมื่อ 9 ส.ค. 2566 อยู่ที่ 84.40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.48 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 87.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.38 เหรียญสหรัฐ
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 66 ขณะที่รัสเซียจะปรับลดการส่งออกน้ำมันในเดือน ก.ย. 66
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ปรับลดลง 0.3% ในเดือน ก.ค. 66 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นการส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด ทั้งนี้ จีนพยายามที่จะฟื้นฟูอุปสงค์และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ดัชนีสำนักงานศุลกากรจีน เปิดเผยข้อมูลการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือน ก.ค. 66 ปรับลดลง 18.8% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากผู้ส่งออกรายใหญ่ลดการจัดส่งในต่างประเทศและสต็อกในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ส.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 445.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันชาติสิงคโปร์
ราคาน้ำมันดีเซล
ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันชาติสิงคโปร์