“ภูมิธรรม” สั่งกรมการค้าภายในติดตามโครงสร้างต้นทุนไข่ไก่ หมู และต้นทุนสินค้าทั้งระบบ คาดจะเร่งหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็ว มองราคาที่ปรับขึ้นตอนนี้แค่ 10 สตางค์ ไม่น่ากังวลมาก
วันที่ 11 มกราคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด,
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด ได้ออกประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกรอยู่ที่ฟองละ 3.80 บาท ทำให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นแผงละ 9 บาท หรือฟองละ 30 สตางค์ ทั้งขายปลีกและขายส่ง ว่าการปรับราคาไข่ไก่ หากดูจากต้นทุนแล้วไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก
แต่ทั้งนี้ เมื่อดูราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่ปรับขึ้นนั้นแค่ 10 สตางค์ และราคาขายปลีกนั้น จากการติดตามยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ผมได้สั่งให้กรมการค้าภายใน ไปติดตามดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ยอมรับว่ามีการปรับขึ้นราคาไปแล้ว ดังนั้น หน่วยงานที่ดูแลจำเป็นต้องดูโครงสร้างราคาทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะไข่ไก่ แต่รวมไปถึงสินค้าเกษตรตัวอื่นด้วย เช่น หมู
“เกิดปัญหาขึ้นครั้งหนึ่งแก้ครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาแค่ชั่วคราว แก้เป็นบางส่วน มีปัญหาอีกก็แก้อีก แล้วก็เอาเงินรัฐไปอุดหนุน ไม่ได้ถูกแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ”
โดยการแก้ไขปัญหาแบบนี้ไม่ได้ต้องตอบโจทย์ที่ถูกต้อง จำเป็นต้องดูโครงสร้างทั้งหมดในแต่ละรายการสินค้า กรมต้องไปดูให้ชัดตั้งแต่ต้นทุนการผลิต อาหารสัตว์ การนำเข้าวัตถุดิบ เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะหากจะให้ผู้ผลิตได้กำไรเพียงนิดเดียวก็อาจจะอยู่ไม่รอด หรือราคาสูงก็กระทบผู้บริโภค
ดังนั้น จำเป็นต้องแก้ไขโครงสร้างราคา และต้องแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็ว แต่อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นราคาไข่ไก่ก็ยังไม่ได้กังวล แต่การ “พาดหัวอาจจะทำตื่นเต้น กังวลเกินไป” แต่ก็ไม่ว่า มองว่าเป็นเสียงเตือนให้เราลงไปคิดให้มากขึ้น
ส่วนโครงสร้างราคาหมู ผมก็ได้คุยกับผู้เลี้ยง ก็พร้อมที่จะหารือโครงสร้างราคาที่เหมาะสม กระทรวงพาณิชย์เป็นเพียงปลายน้ำ เวลาราคาขึ้น-ลงก็ต้องมาแก้ไขที ดังนั้น ก็ได้ให้ผู้เลี้ยงทบทวนหาข้อสรุปที่สมดุลแล้วมาหารือ เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม ซึ่งก็ต้องใช้เวลา ส่วนใกล้เทศกาลตรุษจีนกังวลว่าราคาหมูจะปรับขึ้น เราได้เชิญผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ห้างสรรสินค้ามาหารือเพื่อขอให้ขายราคาที่เหมาะสม ผู้เลี้ยงขอไปคิดเพื่อหาราคาที่ลงตัว คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะได้ข้อสรุป
