SME D BANK เปิดอีกหนึ่งทางรอดให้ SMEs ทุกไซซ์ร่วมทุนกันในรูปแบบ VC ได้สูงถึง 49% สัญญา 5 ปี ปลอดดอกเบี้ย ก่อนพากันสยายปีกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง SET MAI และ LiVE Exchange “ถิงถิง” รายต่อไป
วันที่ 15 เมษายน 2567 นายพิชิต มิทราวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ยังคงมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้า ไม่เพียงแค่ปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ หรือปัญหาเรื่องของการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งจากการวิเคราะห์และเก็บสถิติส่วนหนึ่งเพราะไม่กล้าที่จะลงทุน ขยายธุรกิจต่อด้วยขาดประสบการณ์ แรงจูงใจที่จะก้าวออกจากจุดเดิม แม้ว่าธุรกิจจะมีศักยภาพแล้วก็ตาม
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ดังนั้น ธนาคารจึงมีอีกรูปแบบหนึ่งที่จะให้เป็นทางเลือก SMEs สำหรับไซซ์ M ด้วยการให้ SME D Bank เข้าไปถือหุ้นสูงสุดถึง 49% หรือในสัดส่วนขั้นต่ำที่ 10-20% ภายใต้กรอบวงเงิน VC อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท
โดยจะมีการทำสัญญา 5 ปี ไม่มีต้น ไม่มีดอกเบี้ย แต่เมื่อครบสัญญาผู้ประกอบการจะต้องซื้อหุ้นคืน หากไม่สามารถซื้อคืนได้จะมีเงื่อนไขภายใต้ในสัญญาระบุเอาไว้
“ส่วนใหญ่เราจะถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 20% เพราเราไม่ต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เข้าไปมีอำนาจในการบริหารการดำเนินธุรกิจของเขา แต่สิ่งที่เขาได้คือเราจะช่วยทุกเรื่อง ช่วยทั้งเรื่องการตลาด พัฒนา Business โมเดล การบริหารเงิน สอนทุกอย่าง แผนทุกอย่าง โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพราะเราถือว่าเราเป็นผู้ถือหุ้น ร่วมกันลงทุนไปด้วยกันแล้ว”
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ที่ใช้รูปแบบ VC นี้ และเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั้ง SET และ MAI แล้ว 4 ราย โดยตลาด SET 2 ราย เป็นธุรกิจฟอกไต และบริษัท BPS ตลาด MAI 1 รายเป็นธุรกิจถังเช่ายังยง และตลาด LiVE Exchange 1 ราย เป็นธุรกิจห้องเก็บของ
ทั้งหมดไม่เพียงมีศักยภาพ มีเงินทุน แต่ยังสามารถระดมทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ด้วย และรายล่าสุดที่มีแนวโน้มจะเดินไปในรูปแบบบนี้ คือ ถิงถิง ซึ่งเป็นร้าน และยังมีผู้ประกอบการอยู่ระหว่างการเข้าร่วมโครงการเพื่อพิจารณาอีก 300 ราย และมีที่พร้อมจะเข้าจดทะเบียนในตลาดอีกประมาณ 5-7 ราย
สำหรับ LiVE Exchange ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่น่าจะเหมาะกับ SMEs ด้วยจะมีความแตกต่างจาก SET และ MAI ตรงที่ LiVE Exchange เป็นตลาดทุนใหม่ สำหรับการระดมทุนและการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่สร้างมาเพื่อ SME และ Startups