
ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ
วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับตัวลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และมีความหวังน้อยลงว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่มีความคืบหน้าการเจรจาหยุดยิงของอิสราเอล-ฮามาส อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีแรงซื้อกลับหลังราคาลดลงมากในวันก่อนหน้า
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 2 พ.ค. 2567 อยู่ที่ 78.95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.05 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 83.67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.23 เหรียญสหรัฐ
ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลทั่วโลกที่ปรับลดลง ประกอบกับสต๊อกน้ำมันดีเซลของ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3% ในช่วงสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุน หลังมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ อาจทำการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตต่อไป หากอุปสงค์น้ำมันดิบยังคงไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาดูนโยบายการผลิตอย่างเป็นทางการอีกครั้งจากการประชุมในวันที่ 1 มิ.ย. 67
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐสิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 26 เม.ย. 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.34 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 227 ล้านบาร์เรล ประกอบกับการส่งออกน้ำมันเบนซินจากอินเดียที่ปรับเพิ่มขึ้น 6.5% สู่ระดับ 1.34 ล้านตัน ในเดือน มี.ค. 67
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้ในจีนที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจากการส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังฝั่งตะวันตกที่ลดลง