พาณิชย์ยกปากคลองตลาดใหม่ เป็นตลาดกลางสินค้าเกษตรไม้ดอกไม้ประดับ

นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมระบบและกลไกการค้าให้แก่เกษตรกรผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง โดยได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมการพัฒนาระบบและกลไกการค้า เพื่อยกระดับศักยภาพการค้าในประเทศและช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการค้าในแต่ละท้องถิ่นสามารถขยายตลาดออกไปสู่ท้องถิ่นและภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งต่างประเทศ ซึ่งตลาดกลางสินค้าเกษตรเป็นกลไกตลาดประเภทหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์ให้การส่งเสริม และสนับสนุนให้เอื้อต่อความเจริญเติบโตของท้องถิ่น ผลักดันเศรษฐกิจฐานราก ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีการเจริญเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน กรมฯ จึงได้ส่งเสริมการจัดตั้ง “ตลาดกลางสินค้าเกษตร” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงการซื้อขายสินค้าเกษตรระหว่างเกษตรกรกับผู้ค้าในตลาดกลาง หรือเกษตรกรผู้รวบรวม/ผู้ค้าในตลาดกลางกับผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้เกษตรกรและผู้ค้า ปัจจุบันมีตลาดกลางสินค้าเกษตรในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน รวม 56 แห่ง ใน 32 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ 30 แห่ง ตลาดกลางผักและผลไม้ 20 แห่ง ตลาดกลางสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ที่แปรสภาพมาจากสัตว์น้ำ 4 แห่ง ตลาดกลางปลาสวยงามและสัตว์เลี้ยง 1 แห่ง และตลาดกลางดอกไม้และไม้ดอกไม้ประดับ 1 แห่ง

สำหรับ “ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ปากคลองตลาดใหม่ Flower Market Thailand” เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ดำเนินการโดยบริษัท ฟลาวเวอร์ เนชั่น จำกัด ได้รับการส่งเสริมให้เป็นตลาดกลางสินค้าเกษตร ประเภทตลาดกลางดอกไม้และไม้ดอกไม้ประดับในความส่งเสริมของกรมการค้าภายในเป็นแห่งแรก เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 โดยเป็นตลาดกลางสินค้าเกษตร ลำดับที่ 56 ซึ่งตลาดแห่งนี้จะเป็นจุดรวบรวมดอกไม้และไม้ดอกไม้ประดับจากจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ นครปฐม สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี และจากทั่วทุกภาคของประเทศ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น จีน มาเลเซีย แอฟริกา เป็นต้น มีพื้นที่ให้เช่าจำนวนมากถึง 3,000 แผงค้า ปัจจุบันได้เปิดให้เช่าแล้วจำนวน 1,500 แผงค้า มูลค่าการซื้อขายประมาณ 100 ล้านบาท/ปี โดยสินค้าในตลาดจะกระจายออกไปยังตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อันจะช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายมากขึ้น โดยสามารถเชื่อมโยงการซื้อขายผ่านช่องทางตลาดกลางแห่งนี้ ซึ่งกรมฯ จะมุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดการซื้อขายที่เป็นธรรมให้แก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่สูงขึ้น

 

 


ที่มา : มติชนออนไลน์