
สจล.พัฒนา Skill Mapping ระบบวิเคราะห์ดีมานด์ตลาดแรงงาน อัพเดตทักษะที่ต้องใช้ในแต่ละสายงาน สำหรับออกแบบหลักสูตรในมหาวิทยาลัย ตั้งเป้าเริ่มใช้ปีการศึกษา1/2565 พร้อมเล็งใช้ทรานสคริปต์แนวใหม่ไม่ได้โชว์แค่ GPA
วันที่ 12 เมษายน 2565 รศ.ดร.อนุวัฒน์ จางวนิชเลิศ รักษาการอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล.มุ่งมั่นในการพลิกบทบาทสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งอนาคต ตั้งเป้าเป็นสถาบันการศึกษาที่ริเริ่มนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีพัฒนาการศึกษาทั้งในระบบการศึกษาหลักและการศึกษาทางเลือก ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบัณฑิตยุคใหม่ รวมถึงแรงงานและผู้ประกอบการไทยให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไปด้วยนวัตกรรม
ปัจจุบันเทคโนโลยีดิสรัปชั่น (Technology Disruption) คือความท้าทายที่ภาคอุตสาหกรรมมีการนำนวัตกรรมระดับสูงมาใช้ มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ สจล.ในฐานะสถาบันการศึกษาที่เป็นผู้นำในการวางรากฐานนวัตกรรม ทั้งการสร้างงานวิจัย รวมทั้งบุคลากรให้สามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Disruptor) จึงได้พัฒนา “ฐานข้อมูลกรอบทักษะแรงงาน” (Skill Mapping) โซลูชั่นระบบรวบรวมทักษะแรงงานที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบหรือพัฒนาหลักสูตรของ สจล. ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ โซลูชั่นดังกล่าวเปรียบเสมือนแผนที่นำทาง ที่เปิดโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และภาคแรงงาน ได้ร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกัน
ทักษะแรงงานไทยน่าห่วง

ศ.ดร.สุรินทร์ คำฝอย รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายแผนงาน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านการศึกษา และด้านระดับฝีมือแรงงานของไทยอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง
อาทิ ตัวชี้วัดศักยภาพการแข่งขันด้านทรัพยากรมนุษย์โลกในปีที่ผ่านมา (The Global Talent Competitiveness Index 2021) ประเทศไทยได้เฉลี่ยเพียง 45.46 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 68 ของโลก ซึ่งผลการจัดอันดับข้างต้น เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอีกหลายผลการสำรวจ หากไม่มีการพัฒนาทักษะของแรงงานอย่างจริงจัง ศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยก็จะค่อยๆ ทิ้งห่างจากประเทศอื่นๆ ในเวทีเศรษฐกิจโลกในที่สุด อันสอดคล้องกับเสียงสะท้อนจากภาคอุตสาหกรรมถึงอุปสงค์ความต้องการทักษะแรงงานที่เปลี่ยนไปโดยคาดหวังว่าบัณฑิตจบใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงาน นอกจากจะมีความรู้ด้านวิชาการแล้วควรมีทักษะการทำงานที่พร้อมใช้ทั้งทักษะทางเทคนิค (Technical Skill) และทักษะทั่วไป (General Skill) ตามอุปสงค์ความต้องการทักษะแรงงานที่ต่างไปในแต่ละอุตสาหกรรม
มหาวิทยาลัยตกเป็นจำเลย
ศ.ดร.สุรินทร์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสถาบันอุดมศึกษามักตกเป็นจำเลย เช่น ถูกกล่าวหาว่าหลักสูตรที่สอนไม่ตอบโจทย์โลก กว่าจะเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาทุกๆ 5 ปี ซึ่งไม่ทันกระแสโลก อีกทั้งสิ่งที่มหาวิทยาลัยไทยเน้นสอนส่วนใหญ่เป็นเรื่อง Hard Skill แต่ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมกว่า 90% เขาต้องการแรงงานที่มีทักษะ solf skill มากกว่า ดังนั้นจึงเป็นคำตอบว่าทำไมเราถึงผลิตคนไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม ซึ่งจริง ๆ แล้วเด็กควรมี solf skill ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ เราควรจะเปลี่ยนจากการเรียนที่เน้นเกรดเฉลี่ย เน้นชั่วโมงเรียนได้แล้ว เพราะตอนนี้ใบปริญญาแทบไม่สำคัญ เพราะบอกไม่ได้ว่าเด็กที่เรียนจบมาแล้วเขามีทักษะอะไร ถนัดอะไร
“สจล.ได้พัฒนา Skill Mapping ขึ้นมาด้วยเล็งเห็นความจำเป็นในการสร้างระบบตรงกลางที่ช่วยเชื่อมโยงระหว่างทักษะที่ตลาดแรงงานสมัยใหม่ต้องการเพื่อการออกแบบหลักสูตร สาขาวิชาเรียน กิจกรรมการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา สจล.ให้สอดคล้องกัน สามารถสร้างบัณฑิตที่มีสมรรถนะการทำงานที่ตรงกับความต้องการที่เฉพาะลงไปแต่ละอุตสาหกรรม”
อย่างไรก็ดี โซลูชั่นดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำแผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. 2564 – 2570 เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2565
รู้จัก Skill Mapping
สำหรับ Skill Mapping คือ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ สจล. พัฒนาขึ้นมาเพื่อรวบรวมและแสดงทักษะที่จำเป็นสำหรับแต่ละตำแหน่งงานในปัจจุบันจากฝั่งผู้ประกอบการ (Demand Side) เชื่อมโยงทักษะในหลักสูตรเพื่อเสริมสร้างผู้เรียนจากฝั่งสถานศึกษา (Supply Side) เพื่อช่วยในการวางแผนทรัพยากรบุคคลของประเทศและการออกแบบแนวทางการเรียนรู้ที่ตอบสนองอุปสงค์ภาคแรงงานได้อย่างแท้จริง

รศ.ดร.ปานวิทย์ ธุวะนุติ รักษาการแทนผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการเรียนการสอน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวเสริมว่า จุดเด่นของโซลูชั่นดังกล่าว คือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานรับรองคุณวุฒิ หน่วยงานของรัฐ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะแรงงานที่ผู้ประกอบการคาดหวังในการจ้างงานได้
โดยระบบจะปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลาโดยใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ประมวลผลข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บ ทั้งจากผู้ใช้งานโดยตรง รวมถึงแหล่งข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาวิชาชีพสายงานต่างๆ ร่วมกับฐานข้อมูลภายนอกอื่นๆ อาทิ ข้อมูลจากเว็บไซต์สมัครงานที่เป็นที่นิยมอย่าง ลิงก์อิน (LinkedIn) จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) นำมารวบรวมและกลั่นกรองก่อนประมวลผลออกมาเป็นฐานข้อมูลกรอบทักษะที่แต่ละสายอาชีพต้องการอย่างแท้จริง ทั้งด้านเทคนิคและทักษะทั่วไปเพื่อให้สถานศึกษาต่างๆ ได้นำไปใช้เป็นฐานข้อมูลในการออกแบบหลักสูตร
นอกจากนี้ โซลูชั่นดังกล่าวยังเปิดให้ นักศึกษา ประชาชน ได้เข้าถึงฐานข้อมูลที่แสดงบน Skill Mapping มาเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะของตนให้สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละสายอาชีพได้เช่นกัน
เล็งใช้ ใบทรานสคริปต์แนวใหม่
อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สุรินทร์กล่าวอีกว่า แรกเริ่มนั้น สจล.ได้นำเสนอต่อที่ประชุม กองส่งเสริมและพัฒนากำลังคน สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อนำแพลตฟอร์ม Skill Mapping มาใช้กับ สจล. ในภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป รวมถึงเล็งประกาศใช้ ใบทรานสคริปต์แนวใหม่ ที่ไม่ได้โชว์แค่ GPA แต่ระบุถึงศักยภาพของบัณฑิตทั้ง Soft Skill และ Hard Skill ที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม