โฟร์โมสต์-ไทยเดนมาร์ค-ดัชมิลล์ชิงศึก “UHTเด็ก” 4.6 พัน ล.-

นมยูเอชทีเด็ก 4,600 ล้านโตแรง “โฟร์โมสต์” สบช่องส่ง “โฟร์โมสต์ โอเมก้า” สูตรใหม่บุกตลาดโค้งท้าย ทุ่ม 80 ล้านทำกิจกรรมทุกช่องทาง หวังรักษาส่วนแบ่งตลาดพร้อมดันยอดขายรวมโต 5% ตามเป้า ขณะที่ “ไทย-เดนมาร์ค” เดินหน้าทดลองตลาดนม “คิดดี” เตรียมสปีดสร้างการรับรู้ปีหน้า โฟกัสสื่อสารออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้าน “ดัชมิลล์” ส่งนม “เจนไอ” รสใหม่ เสริมทัพ

แม้ตลาดรวมผลิตภัณฑ์นม 6.1 หมื่นล้านบาทจะเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตลอดจนการแข่งขันที่รุนแรงทั้งในกลุ่มสินค้าเดียวกันและกลุ่มเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ดาหน้าเข้ามาช่วงชิงกำลังซื้อจากผู้บริโภค แต่กลุ่มนมยูเอชทีสำหรับเด็กก็เป็นเซ็กเมนต์ดาวเด่นที่ยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะเด็กคือหนึ่งในผู้บริโภคหลักของตลาดที่มีแนวโน้มหันมาบริโภคนมยูเอชทีเร็วขึ้น ขณะที่ผู้ซื้อที่แท้จริงอย่างพ่อแม่-ผู้ปกครองก็พร้อมจ่ายเงินเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก

ทั้งนี้ นายวิภาส ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม “โฟร์โมสต์” กล่าวว่า แม้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ตลาดรวมผลิตภัณฑ์นมติดลบประมาณ 3% (ม.ค.-ก.ค. 60) แต่ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โฟร์โมสต์ยังเติบโตได้ราว 3% โดยหลัก ๆ มาจากกลุ่มนมยูเอชทีสำหรับเด็กซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีโดยรวม เนื่องจากเด็กเลิกบริโภคนมผงไวขึ้น แล้วสวิตช์มาดื่มนมยูเอชทีที่ดื่มได้สะดวกกว่าแทน ทำให้ตลาดนี้ยังคงมีการเติบโตที่ดี

ดังนั้น นมยูเอชทีสำหรับเด็กจะเป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญที่โฟร์โมสต์ใช้บุกตลาดในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ด้วยการอัพเกรดสินค้าและออกแคมเปญใหม่ ซึ่งเร็ว ๆ นี้ได้เปิดตัว “โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369” นมพร้อมดื่มสำหรับเด็กวัย 1-6 ขวบสูตรใหม่ พร้อมใช้งบฯกว่า 80 ล้านบาท ทำกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบ อาทิ หนังโฆษณา บทความให้ความรู้เกี่ยวกับสารอาหารผ่านสื่อออนไลน์และสื่อออฟไลน์ กิจกรรมออนไลน์ รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ เน้นเข้าถึงกลุ่มคุณแม่รุ่นใหม่ คาดว่าจะช่วยรักษาส่วนแบ่งการตลาดยูเอชทีสำหรับเด็กที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 40% และทำให้การเติบโตของบริษัทในภาพรวมปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 5%

ปัจจุบันนมยูเอชทีสำหรับเด็ก โฟร์โมสต์ โอเมก้า คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้รวม หลังจากที่โฟร์โมสต์เดินหน้าบุกตลาดนี้ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วง 3 ปีหลังมีการเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก

ด้านนางสาวอรนุช จิราวัฒนานุรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม “ไทย-เดนมาร์ค” กล่าวว่า อ.ส.ค.มีแนวทางในการสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งเห็นโอกาสของตลาดนมยูเอชทีสำหรับเด็ก 4,631.64 ล้านบาท (ปี 2559) ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า จึงได้เปิดตัวนมยูเอชทีสำหรับเด็ก “คิดดี” ตราไทย-เดนมาร์คสำหรับเด็ก 3-8 ขวบ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการนมเติมสารอาหารในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย โดยชูจุดแข็งสำคัญคือเป็นนมโค 100% และไม่ผสมน้ำมันพืช

หลังจากทดลองตลาดมากว่า 2 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินการตอบรับจากผู้บริโภคเพื่อปรับกลยุทธ์การตลาด ปรับปรุงสินค้าให้ตอบโจทย์มากขึ้น เช่น ขนาดสินค้าที่ปัจจุบันทำไซซ์ 125 มิลลิลิตรเหมาะสมหรือไม่ สารอาหารที่ใส่ในปัจจุบันตรงกับความต้องการมากน้อยเพียงใด ฯลฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มทำกิจกรรมสร้างการรับรู้อย่างเป็นทางการได้ภายในไตรมาส 2 ปีหน้า ซึ่งจะเน้นการสื่อสารในช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ดัชมิลล์ บริษัทผู้ผลิตนมรายใหญ่อีกราย ก็มีนมยูเอชทีสำหรับเด็ก “ดัชมิลล์ เจ็นไอ นิวทริ วีพลัส” เข้ามาแข่งขันในตลาดตั้งแต่ช่วงปี 2558 ทำราคาถูกกว่าคู่แข่งในตลาด คือ ขนาด 90 มล. 5 บาท และ 180 มล. 10 บาท เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคระดับแมส ล่าสุด ได้ส่งดัชมิลล์ เจ็นไอ แบบ UHT รสช็อกโกแลตเข้ามาเสริมทัพตั้งแต่กันยายนที่ผ่านมา

สำหรับตลาดนมยูเอชทีสำหรับเด็ก 4,631.64 ล้านบาท ไม่รวมถึงกลุ่มนมยูเอชทีเด็กพรีเมี่ยม (ผลิตจากนมผง) ที่มีราคาค่อนข้างสูง อาทิ นมยูเอชที เอนฟาโกร, ไฮคิว, ดูเม็กซ์ ฯลฯ ที่ทำกิจกรรมการตลาดใกล้เคียงกับกลุ่มนมผง เช่น ร่วมโปรโมชั่นแจกแสตมป์กับช่องทางขาย หรือแจกของเล่นสำหรับเด็กเมื่อซื้อสินค้าครบตามที่กำหนด