ธนารักษ์เล็งปรับสิทธิประโยชน์ แก้เกมประมูล “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” กร่อย

ธนารักษ์

ประมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษ “ตาก-มุกดาหาร-หนองคาย” กร่อย เอกชนซื้อซองแต่ไม่ยื่น ธนารักษ์เผยมีเอกชนรายเดียวยื่นซองประมูล “เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก” เตรียมชงบอร์ด กพศ. ที่มีนายกฯเป็นประธานพิจารณาเห็นชอบ ขณะที่ “มุกดาหาร-หนองคาย” เอกชนไม่มั่นใจ-รอโครงสร้างพื้นฐานชัด กรมเล็งเสนอปรับสิทธิประโยชน์ “แรงงาน-ภาษี” ให้ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน หวังเพิ่มแรงจูงใจผู้ลงทุนอีกรอบ

นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ฐานะประธานการประชุมคณะทำงานสรรหา คัดเลือก เจรจา และกำกับติดตามการดำเนินการของผู้ลงทุนในที่ดินราชพัสดุที่กำหนดเป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมคณะทำงาน เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่กรมธนารักษ์ได้เปิดประมูลเพื่อสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 3 พื้นที่ ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก มุกดาหาร และหนองคาย

โดยพบว่ามีเอกชนเพียงรายเดียวที่ยื่นซองประมูลเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ส่วนมุกดาหาร และหนองคาย ไม่มีบริษัทใดยื่นซอง

“ที่ประชุมมีมติให้บริษัทที่ยื่นซองเข้ามารายเดียว ได้เป็นผู้พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก และขั้นตอนต่อจากนี้ไป กรมธนารักษ์จะเสนอผลการคัดเลือกไปให้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาต่อไป และหากคณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ก็สามารถเดินหน้าเซ็นสัญญา เพื่อเริ่มพัฒนาพื้นที่ต่อไปได้เลย”

ส่วนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร และหนองคาย แม้จะมีผู้ซื้อซองประมูล จังหวัดละ 5 บริษัท แต่เนื่องจากสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ยังไม่ได้มีการดำเนินการให้เป็นรูปธรรม เอกชนจึงไม่มั่นใจ จึงไม่ได้ยื่นซองเข้ามา

“ตอนนี้เอกชนยังรอความชัดเจนต่าง ๆ อยู่ ซึ่งกรมทางหลวงชนบทก็มีการยืนยันว่า หากมีการเวนคืนที่เรียบร้อยแล้ว จะมีการสร้างถนนแน่ แต่เมื่อยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ผู้ประกอบการจึงชะลอไปก่อน ซึ่งเชื่อว่าหากในอนาคตโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว เอกชนจะสนใจเข้ามาลงทุนแน่นอน เนื่องจากที่ดินมีเนื้อที่จำนวนมาก เช่น จังหวัดมุกดาหาร ประมาณ 1,000 ไร่ และจังหวัดหนองคาย ประมาณ 700 ไร่ เป็นทำเลที่ดี”

นายสมมาตรกล่าวว่า จากที่ได้มีการหารือร่วมกับกรมทางหลวง ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างถนนนั้น กรมทางหลวงแจ้งว่าได้มีการออกแบบโครงสร้างถนน และเสนอของบประมาณเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร ได้รับจัดสรรงบประมาณในการสำรวจและการเวนคืนที่ดินแล้ว แต่อยู่ระหว่างกระบวนการหาเอกชนมารับงาน

“กรมมีแนวคิดที่จะขอเพิ่มสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากสิทธิประโยชน์ในหลาย ๆ อย่างยังต่างกันอยู่ โดยขณะนี้สัญญาเช่าที่ของเราได้แค่ 50 ปี แต่บางประเทศ เช่น สปป.ลาว ให้ระยะเวลายาวถึง 99 ปี แต่กฎหมายเราไม่เอื้ออำนวย ส่วนในเรื่องของแรงงาน ภาษี และส่วนอื่น ๆ ก็ต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการ”

ทั้งนี้ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ตก.590 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื้อที่ประมาณ 1,076-1-90.70 ไร่ โดยกำหนดการเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 36,000 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 38,753,163 บาท (ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 15 ทุก 5 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูลเป็นเงิน 269,119,188 บาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี

ขณะที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ มห.511 และ มห.512 ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ประมาณ 1,081-0-23.10 ไร่ กำหนดผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 1,800 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1,945,904 บาท (ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 9 ทุก 3 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นเงิน 32,431,733 บาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี

และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นค.1031 ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เนื้อที่ประมาณ 718-0-46 ไร่ กำหนดผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตรา ไร่ละ 2,100 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1,508,042 บาท (ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 9 ทุก 3 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูลเป็นเงิน 25,134,025 บาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี