กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ลุยตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เปิดตัว “เฟิร์สช้อยส์ สแนปแคช” หลัง ธปท.ไฟเขียวไลเซนส์ ลั่นเจาะกลุ่ม “คนรุ่นใหม่-กลุ่มอาชีพอิสระ” ที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อ แต่ไม่มีเอกสารรายได้ ชี้ใช้ข้อมูลทางเลือกพิจารณา เสนอวงเงินสูงสุด 1 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 25% ระยะเวลาผ่อน 12 เดือน ตั้งเป้าภายใน 1 ปี อนุมัติลูกค้าใหม่ 5.5 หมื่นราย ยอดสินเชื่อใหม่ 500 ล้านบาท เผยเตรียมจับมือ “ช้อปปี้” ต่อยอดธุรกิจปลายปีนี้
วันที่ 17 ตุลาคม 2565 นางสาวพัทธ์หทัย กุลจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลแบรนด์กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ กล่าวว่า ภายหลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล (Digital Personal Loan) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ล่าสุด บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อดิจิทัล เฟิร์สช้อยส์ สแนปแคช” หรือ Snap Cash สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่ตอบโจทย์ความต้องการในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ สมัครใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชั่น “UCHOOSE” พัฒนา Information Based Lending Platform ใช้วิธีพิจารณาให้สินเชื่อด้วยข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) และแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) โดยไม่ต้องใช้เอกสารแสดงรายได้ สะดวกรวดเร็ว ทราบผลอนุมัติไวสุดใน 5 นาที และรับเงินโอนเข้าบัญชีทันทีหลังการอนุมัติ
โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มฟรีแลนซ์ กลุ่มอาชีพอิสระ ค้าขายออนไลน์ หรือพนักงานออฟฟิศที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการยื่นเอกสาร โดยบริษัทจะพิจารณาข้อมูลทางเลือกจากเทคโนโลยีในการวิเคราะห์การปล่อยสินเชื่อ โดยในวงเงินสูงสุด 1 หมื่นบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 12 เดือน และคิดอัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี สามารถทำรายการเบิกถอนเงินสดด้วยตัวเอง ในแอปพลิเคชั่่น “UCHOOSE” และสามารถตรวจสอบยอดสินเชื่อ ยอดชำระ วันกำหนดชำระได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ตั้งเป้าภายใน 1 ปี หรือภายในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าอนุมัติสินเชื่อจำนวน 5.5 หมื่นราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 500 ล้านบาท
“Snap Cash เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเครดิตทางการเงินและสร้างโอกาสสู่อนาคตสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าประมาณ 60% ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ เพราะไม่มีเอกสารทางการเงิน ซึ่ง ธปท.มองว่าสินเชื่อตัวนี้จะเข้ามาช่วยให้คนไม่มีเอกสารรายได้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ เพราะเป็นการสร้าง Digital Footprint ให้ลูกค้า โดยที่ดอกเบี้ยไม่ได้เป็นภาระกับลูกค้า”
นอกจากนี้ ภายในปลายปี 2565 บริษัทยังมีแผนจะขยายตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ผ่านการสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ (Ecosystems and Partnership) ที่มีศักยภาพในการเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่งขึ้น
โดยกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ จะร่วมกับช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เปิดตัว “เอส อีซี่ แคช บาย เฟิร์สช้อยส์” (SEasy Cash by First Choice) สินเชื่อเงินสดอเนกประสงค์ สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีช้อปปี้ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว และได้รับการเรียนเชิญเท่านั้น เพื่อการเข้าถึงผู้ใช้งานออนไลน์ที่กว้างขวางของช้อปปี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสำหรับคนทุกกลุ่ม
นางสาวพัทธ์หทัยกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มสินเชื่อส่วนบุคคลในไตรมาสที่ 4 ประเมินว่าทิศทางปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล และเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวดีขึ้น โดยในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะจบอยู่ที่ 4-5 หมื่นล้านบาท และมีลูกค้ารายใหม่ 2 แสนราย คิดเป็นการเติบโต 60% เมื่อเทียบปีก่อน
นอกจากนี้ สัดส่วนการเบิกเงินสดผ่านเอทีเอ็ม มาเป็นผ่านแอปพลิเคชั่น “U Cash” มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นจาก 40% เป็น 70% ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยโควิด-19 และกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นทางด้านดิจิทัลเป็นหลัก โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในช่วงมิถุนายน 2564-สิงหาคม 2565 พบว่ามีลูกค้าทำธุรกรรมผ่านแอป “U Cash” กว่า 4.1 ล้านครั้ง คิดเป็นยอดเงิน 25,100 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเข้าถึงแหล่งการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังอยู่ในระดับต่ำ 2-3% ถือว่าต่ำกว่าในอุตสาหกรรม และมองไปข้างหน้ายังอยู่ในวิสัยบริหารจัดการได้
