กรุงเทพประกันชีวิต กำไรไตรมาส 3/65 เหลือ 942 ล้านบาท ลดลง 20% รายได้ลงทุนหดตัว-เบี้ยผ่านช่องทางตัวแทนหาย แต่กำไรงวด 9 เดือนทำได้ 2,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% จากเบี้ยรับรวม 26,989 ล้านบาท
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- สงกรานต์ 2567 ทางด่วนฟรี มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง ฟรีถึงวันไหน
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 942 ล้านบาท ลดลง 20% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นกำไร 0.55 บาทต่อหุ้น ลดลง 20.4% โดยช่วง 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% คิดเป็นกำไร 1.72 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.4%
โดยในไตรมาส 3/65 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 13,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 2,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีรายได้รวมทั้งสิ้น 36,613 ล้านบาท ลดลง 2% และ
มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 4,751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางธนาคาร
โดยบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปในไตรมาส 3/65 เพิ่มขึ้น 0.1% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตามในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ gบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปลดลง 4% ซึ่งเป็นการลดลงตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ โดยภาพรวมเบี้ยประกันภัยรับรวมในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 10,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน
แต่สำหรับ 9 เดือนแรกปีนี้ เบี้ยรับรวมอยู่ที่ 26,989 ล้านบาท ลดลง 3% โดยมาจากช่องทางธนาคาร 60% ช่องทางตัวแทน 34% และช่องทางอื่น ๆ อีก 6%
ทั้งนี้บริษัทมีรายได้จากการลงทุนสุทธิในไตรมาส 3/65 รวมทั้งสิ้น 3,267 ล้านบาท ลดลง 6% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนในไตรมาสนี้อยู่ที่ 4% และมีผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วง 9 เดือนของปีนี้ที่ 4.07%
บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 3/65 จำนวนทั้งสิ้น 12,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว และมีค่าใช้จ่ายรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ที่ 33,164 ล้านบาท ลดลง 2% จากค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยที่ลดลงเป็นหลัก
โดยยังคงมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio: CAR ณ สิ้นไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 363% ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/65 ที่ระดับ 364% และสิ้นสุด 30 ก.ย.65 บริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 344,517 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 64 ที่ 0.8% จากการลดลงของมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ลงทุน โดยสินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนสูงที่สุดคือ 94%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงดำเนินการตามทิศทางการดำเนินธุรกิจที่กำหนดไว้ใน 3 ปี คือ ปี 2565-2567 ในการเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่าน 5 มิติหลัก
