สลากแบบใหม่ N3-L6 สำนักงานสลากฯ เตรียมชงเข้าครม.สัปดาห์หน้า

ธนวรรธน์ พลวิชัย
ธนวรรธน์ พลวิชัย

สำนักงานสลากฯ เตรียมชงสลากรูปแบบใหม่ N3 และ L6 เข้า ครม.ภายในสัปดาห์หน้า ชี้หากไม่ทันรัฐบาลชุดนี้พร้อมเสนอรัฐบาลชุดใหม่ต่อเนื่อง หวังแก้ปัญหาสลากเกินราคา-ลดปริมาณหวยใต้ดิน

วันที่ 7 มีนาคม 2566 นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของสลากรูปแบบใหม่ ได้แก่ ลอตเตอรี่ 6 หรือ L6 และสลากเลข 3 หลักหรือ N3 นั้น ขณะนี้สำนักงานสลากฯได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและได้ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ต้องรอติดตามว่ากระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์หน้า หรือหากไม่ทันต้องเสนอ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีความพร้อมดำเนินการทันที หาก ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว

สำหรับสลาก L6 หาก ครม.เห็นชอบแล้วจะสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากเป็นสลากดิจิทัล ซึ่งเพิ่มปริมาณสลากเข้าไปในระบบได้เลยในงวดถัดไป ต่างจากสลากรูปแบบใบเหมือนเดิม เพราะการที่จะเติมเข้าไปในสลากดิจิทัลจะต้องยึดโควตาผู้ค้าที่ทำผิดเงื่อนไขเข้ามา แต่ขณะนี้การยึดโควตายังมีข้อจำกัด เพราะผู้ค้าปฏิบัติตามเงื่อนไขมากขึ้น และการพิสูจน์ทราบทำได้ เนื่องจากยังมีข้อจำกัดและการร้องเรียนอยู่

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มสลาก L6 เป็นหน้าที่ของบอร์ดสลากที่จะพิจารณาว่าจะเพิ่มสัดส่วนสลากเข้าไปในระบบเท่าไหร่ ซึ่งเรื่องที่เป็นผลบวกจะทำให้ประชาชนเข้าถึงสลากได้ในราคา 80 บาทได้มากขึ้น โดยสำนักงานสลากมีแผนที่จะทยอยเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลจากปัจจุบันอยู่ที่ 17 ล้านใบ เป็น 18 ล้านใบ และในรอบแรกจะเติมสลากดิจิทัลเข้าสู่ระบบได้เต็มที่ได้ 20 ล้านใบ จากนั้นจะทยอยปรับขึ้นเป็น 30 ล้านใบภายในสิ้นปีนี้ หรือช่วงกลางปีหน้า โดยเพดานสุดท้ายคือ 40 ล้านใบ ซึ่งจะทำให้สลากราคา 80 บาทอยู่ตัว

“เชื่อว่า L6 จะช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้อย่างรวดเร็ว แต่สำนักงานสลากฯ เป็นห่วงว่าประชาชนยังไม่คุ้นเคยและยังชินกับการซื้อสลากแบบใบ จึงต้องทยอยเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล คาดว่ากว่าจะหาจุดสมดุลได้จะเป็นช่วงกลางปีหน้า ส่วนสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากคือ การเติมจำนวนสลากเข้าไปในระบบ ทั้งสลากดิจิทัลและสลากรูปแบบใบต้องไม่มากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเป็นการมอมเมา”

ขณะที่ผลิตภัณฑ์สลาก N3 เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการซื้อสลากของประชาชน หากการขายสลากดิจิทัลยังไม่สมดุล ส่วนสลากใบยังขายเกินราคา 80 บาท บอร์ดสลากจะนำ N3 เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งหาก ครม.อนุมัติแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายใน 6 เดือน

ทั้งนี้ สลาก N3 มี 3 แนวทางที่บอร์ดจะต้องพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่ 1.เดิมราคาสลากที่เปิดประชาพิจารณ์ไปอยู่ที่ 50 บาท แต่ประเมินว่าราคาอาจจะสูงเกินไป ซึ่งจะมีการพิจารณาปรับลดลงมาอยู่ที่ 20-40 บาทอีกครั้ง ว่าสุดท้ายแล้วราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะสำนักงานสลากฯ ตั้งเป้านำ N3 เข้ามาช่วยลดปริมาณหวยใต้ดิน หากราคาสูงเกินไปจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ยาก

2.พิจารณาระบบการขายสลาก N3 ซึ่งวิธีที่ดำเนินการได้เร็วที่สุด คือ การจำหน่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ คือจำหน่ายผ่านอุปกรณ์เหมือนมือถือ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขายนำไปวางขายที่แผงสลากหรือเดินเร่ขายได้ ขณะที่ผู้ซื้อสามารถซื้อที่ไหนก็ได้เช่นเดียวกันกับลักษณะการซื้อหวยใต้ดิน โดยการใช้ทั้ง 2 วิธีดังกล่าว จะต้องมีวางหลักเกณฑ์ว่าผู้ขายสลาก N3 จะสามารถขายได้กี่หมายเลข

และ 3.ระบบการคัดเลือกตัวแทนขายสลาก N3 อาจจะต้องมีการเปิดลงทะเบียนใหม่ เป็นต้น

“ขอยืนยันว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำนักงานสลากฯ ทำตามกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา เชื่อจะช่วยให้มีสลากราคา 80 บาทบรรลุวัตถุประสงค์ได้ทั่วประเทศ” นายธนวรรธน์กล่าว