สรรพสามิต เตรียมประกาศลดภาษีไวน์-สุราพื้นบ้าน ในสัปดาห์นี้

ไวน์

กรมสรรพสามิต เผยลดอัตราภาษีไวน์-สุราพื้นบ้าน เตรียมประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษา ภายในสัปดาห์นี้ หนุนเก็บรายได้เพิ่ม 1,000 ล้านบาท

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับปรับปรุงโครงสร้างจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยปรับปรุงภาษีไวน์ และไวน์ผลไม้ ซึ่งจะประกอบด้วยไวน์พื้นบ้าน และไวน์นำเข้าจากต่างประเทศ โดยยกเลิกการจัดเก็บภาษีจากการแบ่งชั้นราคา และกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีเป็นอัตราเดียว

คาดว่า ประกาศกฎกระทรวงของกรมสรรพสามิต จะประกาศได้ในราชกิจจานุเบกษาภายในสัปดาห์นี้ จะทำให้ภาษีไวน์ปรับลดอัตราภาษีจาก 10% เหลือ 5% หรือราคาลดลงมาเหลือประมาณ 100 บาท/ขวด

สำหรับแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีสุรา และไวน์ ของรัฐบาลจะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวของไทย และยังช่วยเพิ่มรายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลักการสำคัญที่ปรับเพิ่มภาษีไวน์ เนื่องจากในอดีตมีการจัดเก็บภาษีทั้งตามตามมูลค่า และปริมาณ เช่น หากราคาเกิน 1,000 บาท เก็บตามมูลค่าที่ 10% ตามปริมาณประมาณ 150 ต่อขวด

นายเอกนิติกล่าวเพิ่มเติมว่า จากเดิมสรรพสามิต สามารถจัดเก็บภาษีสุราและไวน์ได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท หากสามารถนำสินค้ากลุ่มนี้เข้าสู่ระบบมากขึ้น การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น รัฐเองก็ตั้งเป้าว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อปีไว้ที่ประมาณ 900-1,000 ล้านบาท จากเดิมประมาณ 1,500 ล้านบาท และโครงสร้างภาษีใหม่จะทำให้ราคาขายปลีกแนะนำสอดคล้องและสะท้อนราคาที่เป็นจริงมากขึ้น และทำให้มีการหลีกเลี่ยงภาษีได้ยากขึ้นด้วย

เช่นเดียวกับโครงสร้างภาษีสุราพื้นบ้าน ตามนโยบายรัฐบาล ที่จะมีการประกาศในนสัปดาห์นี้เช่นกัน จากเดิมเก็บภาษี 5% เหลือ 0% และเก็บตามปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ หรือดีกรีอย่างเดียว เพื่อส่งเสริมรายได้ชุมชน

“ขณะนี้กรมสรรพาสามิตได้นำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการช่วยจัดเก็บภาษี เพียงสแกนลงไปที่แสตมป์ที่ขวดไวน์ จะพบข้อมูลของไวน์ขวดนั้น ๆ ว่า มาจากประเทศอะไร ราคาเท่าใด ซึ่งจะสะท้อนราคาที่เป็นจริงซึ่งจะช่วยให้การหลบเลี่ยงภาษีทำได้ยากมากขึ้น และกำลังทำระบบที่สามารถตรวจสอบราคาได้ตามแสตป์ที่ติดบนไวน์ว่าสินค้านั้นเหลียกเหลี่ยงภาษีหรือไม่ หรือไม่ตรงกับขวด ซี่งเป็นการทำให้ระบบรัฐบาลโปร่งใสมาก” นายเอกนิติกล่าว