หุ้น-การเงิน

BITE SIZE : ราคาทองพุ่ง แพงทุบสถิติ ปัจจัยอะไรมีผลกับราคาทอง

Prachachat BITE SIZE
โดย พฤฒินันท์ สุดประเสริฐ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ราคาทองช่วงนี้ กำลังมาแรง พุ่งทะยานมาอย่างต่อเนื่อง จนราคาขายทองรูปพรรณ ทะลุ 40,000 บาท ทำสถิติ All Time High ใหม่ล่าสุดไปเป็นที่เรียบร้อย

แม้ราคาทองล่าสุด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 เวลา 17.15 น. จะปรับตัวลงมา 50 บาท จากราคาปิดวันก่อนหน้านี้ แต่ราคาทองคำ ยังคงมีแนวโน้มไปในทิศทางขาขึ้น

หลาย ๆ คนที่เป็นมือใหม่ในการติดตามข่าวเศรษฐกิจ หรือเป็นมือใหม่ในการลงทุนทองคำ คงสงสัยไม่น้อยว่า ราคาทองที่เดี๋ยวปรับขึ้น เดี๋ยวปรับลงในแต่ละครั้ง ใครเป็นคนกำหนด และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อราคาทอง

Prachachat BITE SIZE ชวนเรียนรู้ไปพร้อมกัน

ใครกำหนดราคาทอง ?

การกำหนดราคาทองในประเทศไทย จะกำหนดโดยคณะกรรมการควบคุมราคาทองของสมาคมค้าทองคำ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการจากร้านทอง 5 ร้าน คือ ห้างทองจินฮั้วเฮง, ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง, ห้างทองเลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์, ห้างทองหลูชั้งฮวด และห้างทองแต้จิบฮุย

โดยการกำหนดราคาทองแต่ละครั้ง จะอ้างอิง 4 ตัวแปร คือ

1. ราคา Gold Spot หรือราคาทองคำตลาดโลก ทั้งการรับซื้อและขายออก ซึ่งต้องดูสถานการณ์ทองคำภายในประเทศว่า มีความต้องการขนาดไหน จะต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อขายในประเทศ หรือส่งออกทองคำไปต่างประเทศ

2. ค่า Premium หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการนำเข้า/ส่งออกทองคำ รวมถึงค่าขนส่ง ค่าความเสี่ยง ดอกเบี้ยธนาคาร ค่าประกันภัยต่าง ๆ ซึ่งถูกกำหนดมาโดยผู้ค้าทองในต่างประเทศ โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวมีผลต่อต้นทุนการนำเข้าทองคำมาขายหรือส่งออกทองคำไปต่างประเทศ

3. ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเปลี่ยนแปลงในทุกครั้งที่มีการอัพเดตราคาทอง

4. Demand และ Supply ภายในประเทศ โดยพิจารณาจากปริมาณการซื้อ-ขาย จากกลุ่มต่าง ๆ ทั้งผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกทองคำ, ร้านค้าทองเยาวราช, ร้านค้าส่งทองคำ, ร้านค้าปลีกทองคำ, ผู้ลงทุนทองคำรายใหญ่ และผู้ลงทุนทองคำรายย่อย

ปัจจัยอะไรเขย่าราคาทองคำ ?

สำหรับราคาทองคำ นอกจากจะต้องดูตัวแปรต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการกำหนดราคาทองแล้ว ยังมีเรื่องของปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกับมาที่ราคาทองคำ โดยปัจจัยหลักอะไรบ้างที่มีผลต่อราคาทองคำ ดังนี้

ปัจจัยที่ 1 คือ นโยบายการเงินของรัฐและอัตราดอกเบี้ย

ถ้าดอกเบี้ยปรับขึ้น แสดงว่า เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณที่ดี ความเชื่อมั่นมากขึ้น ราคาทองจะปรับตัวลง แต่ถ้าดอกเบี้ยปรับตัวลง แสดงว่า เศรษฐกิจเริ่มไม่ดี ความเชื่อมั่นลดลง ราคาทองจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะคนจะหันมาลงทุนกับทองคำ ซึ่งเป็นทรัพย์สินปลอดภัยแทน

ปัจจัยที่ 2 คือ ราคาน้ำมัน

เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องเงินเฟ้อ เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น เงินเฟ้อจะสูงขึ้นตาม และทำให้ราคาทองคำ ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หากราคาน้ำมันลดลง เงินเฟ้อจะเบาลง และราคาทองคำ ปรับตัวลดลงตามไปด้วย

ปัจจัยที่ 3 คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขายทั่วโลก เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว ราคาทองจะเพิ่มขึ้น เพราะคนลงทุนกับทองคำเพื่อเก็บมูลค่า แต่เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้น ราคาทองจะปรับตัวลดลง เพราะคนจะหันไปลงทุนกับค่าเงินดอลลาร์แทน

ปัจจัยสุดท้าย คือ Demand และ Supply หรือความต้องการในประเทศ

เรื่องดังกล่าวนี้เป็นไปตามกลไกตลาด มีตั้งแต่ความต้องการภาคการผลิต ภาคเครื่องประดับ ภาคการลงทุน ความต้องการของภาครัฐในการเก็บเป็นทุนสำรอง จนถึงปริมาณผลผลิตทองคำ แรงขายจากธนาคารกลาง และปริมาณทองคำเก่าที่มีอยู่ในระบบ

แม้ว่าราคาทองในช่วงนี้ จะปรับตัวแรง แต่การลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลาย ย่อมเป็นผลดีกับเงินทอง เงินออมของเรา นอกจากนี้ การติดตามสถานการณ์โลก รู้ทันความเป็นไปของโลก ช่วยให้เราตัดสินใจในการลงทุนได้ชาญฉลาดขึ้นด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก

ติดตาม Prachachat BITE SIZE EP.49 ได้ที่ https://youtu.be/kcQhXslwnNg