
YLG ชี้ ปัจจัยหนุนราคาทองพุ่งขึ้น เลือกตั้งสหรัฐ-สงคราม-การเข้าซื้อทองของธนาคารทั่วโลกยังเอื้อต่อราคาทองคำ เชื่อระยะยาว 3-5 ปีจะเห็นการปรับขึ้น ชี้เป้าราคาทองปีนี้ยังแตะ 2,500 เหรียญ
วันที่ 17 มิถุนายน 2567 นางฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในช่วงหลังจากนี้มองว่าเป็นขาขึ้น แม้ว่าจะมีการปรับฐานลงมาบ้างถือเป็นโอกาสในการเล่นเพื่อเก็งกำไร โดยมองว่าปัจจัยที่จะหนุนราคาทองได้มาจากการที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่มีปัญหาการเมืองภายใน การเมืองระหว่างประเทศ ประกอบกับมีหนี้สาธารณะที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้นักลงทุน หรือธนาคารกลางต่าง ๆ หันมาสะสมทองคำเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปี ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งประเด็นนี้นักลงทุนได้รับรู้ไปแล้ว
ด้านปริมาณทองคำทั่วโลกที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่าเหลืออยู่ปริมาณ 59,000 ตัน ซึ่งหากเทียบจากปริมาณการขุดทองคำเฉลี่ยปีละประมาณ 3,000 ตัน จะเท่ากับเหลือทองคำให้ขุดได้อีกเพียง 19 ปี หากไม่มีการสำรวจพบสายแร่ทองคำใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนปริมาณทองคำรีไซเคิลที่นำกลับมาหมุนเวียนหลอมใหม่นั้น พบว่ามีเพียงปีละ 1,000 ตันเท่านั้น ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วไม่เพียงพอต่อความต้องการทองคำทั่วโลกที่สูงกว่า 4,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้เชื่อว่า 3-5 ปีจะเริ่มเห็นการปรับขึ้นของราคาทองคำ อยากให้นักลงทุนมองว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น จากนี้ต้องใช้ระยะเวลากี่ปี ไม่อยากให้มองเป็นการเทรด แต่อยากให้มองเป็นการกระจายการลงทุน โดยในระยะสั้นจะเห็นแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น มองแนวรับ 2,277 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ระยะยาวมองว่าทองคำยังเป็นขาขึ้น แนวต้าน 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์