หุ้นการบินเด่นรับไฮซีซั่น “บาทแข็ง” หนุนกำไร “AAV-BA”

aviation

ขณะนี้เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ซึ่งเป็น “ไฮซีซั่น” ด้านการท่องเที่ยวแล้ว หน่วยงานทางการมีการคาดการณ์กันว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงปักหมุดมาเที่ยวเมืองไทยกันคึกคัก ดังนั้น น่าจะส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องได้รับปัจจัยบวกไปด้วย อย่าง “หุ้นการบิน” ที่ได้ประโยชน์แน่นอน

โดย “ดิษฐนพ วัธนเวคิน” นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงวันที่ 1-7 ต.ค. จะเป็นเทศกาลวันหยุดยาวในวันชาติจีน (China Golden Week) และเดือน พ.ย.-ธ.ค. จะเป็นไฮซีซั่น จะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มการบิน จากปริมาณผู้โดยสารที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ เดิมคาดตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ 34.1 ล้านคน เติบโต 21% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) แต่นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) นักท่องเที่ยวฟื้นตัวดีกว่าคาด 4-5% จึงคาดมีอัพไซด์ทั้งปีน่าจะขึ้นไปแตะ 35-36 ล้านคน

“นักท่องเที่ยวจีน ที่ก่อนหน้านี้อาจจะเดินทางออกนอกประเทศไม่มาก แต่คาดว่าในไตรมาส 4 นี้ จะเห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยภูมิภาคที่จะเติบโตโดดเด่นอยู่ในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก จึงน่าจะทำให้ปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี โดยพบว่าปัจจุบันดีมานด์การเดินทางมายังกรุงเทพมหานคร เป็นอันดับ 5 และระดับสูงกว่าช่วงปีโควิด-19 และคาดว่าชาวจีนจะมีเวลท์เพิ่มขึ้น หนุนกระแสการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยวช่วง Golden Week หลังรัฐบาลจีนเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและการคลัง”

นอกจากนี้ ในด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ ช่วงนี้ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันลดลงและต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ด้วย จะเป็นอีกมุมบวกหนึ่งต่อกลุ่มสายการบิน เพราะฉะนั้นไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีของกลุ่มการบิน (ไม่รวมทิศทางค่าเงินบาท)

สำหรับประเด็นเงินบาทแข็งค่ามาก มี 2 มุม คือ ผลบวกในมุมของหนี้ โดยเฉพาะ บมจ.เอเชีย เอวิชั่น (AAV) ที่มีหนี้สกุลเงินดอลลาร์ 1,000 ล้านเหรียญ ซึ่งไตรมาส 3 เงินบาทแข็งค่าขึ้นมา 3-4 บาท จากสิ้นไตรมาส 2 เพราะฉะนั้นไตรมาส 3 AAV มีโอกาสบันทึกกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (FX Gain) ประมาณ 2-3 พันล้านบาท

ADVERTISMENT

กราฟฟิก ตารางการบิน

โดยเงินบาทแข็งค่าทุก 1 บาท AAV จะรับรู้กำไรประมาณ 800 ล้านบาท เช่นเดียวกับ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ที่มีหนี้สกุลเงินดอลลาร์ 100 ล้านเหรียญ จะรับรู้กำไรราว 80 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 ต้องติดตามทิศทางค่าเงินบาท เบื้องต้นคาดว่าค่าเงินบาท อาจอ่อนค่า ซึ่งจะส่งผลลบกลายเป็นรับรู้ขาดทุนจาก FX Loss

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ดี ในมุมลบ ก็จะกระทบต่อการแข่งขันกับประเทศอื่น อย่างกรณีนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาไทยต้องใช้เงินมากขึ้น แลกเงินได้น้อยลง ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจเดินทาง

ส่วนความหวังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” น่าจะเป็นโมเมนตัมบวกของการเดินทางในประเทศได้ดีขึ้น แต่กลุ่มที่จะได้ประโยชน์เด่นชัดมากกว่าสายการบิน จะเป็นกลุ่มโรงแรม

“ดิษฐนพ” กล่าวว่า คาดการณ์กำไรปกติ (ไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน) ของหุ้นกลุ่มการบินปี 2567 จะอยู่ที่ 25,102 ล้านบาท เติบโต 126% YOY โดยมาจาก 1.บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จำนวน 19,130 ล้านบาท เติบโต 108.9% 2.AAV จำนวน 1,888 ล้านบาท เติบโต 943% 3.BA จำนวน 3,692 ล้านบาท เติบโต 149.9% และ 4.บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) จำนวน 432 ล้านบาท เติบโต 54.2%

ทั้งนี้ คาดการณ์อัตราบรรทุกผู้โดยสารของ AAV และ BA จะอยู่ที่ 90% และ 85% จากช่วงก่อนโควิดอยู่ที่ 84% และ 68% ตามลำดับ และราคาตั๋วเฉลี่ยปีนี้ของ AAV และ BA จะอยู่ที่ 2,016 บาท และ 4,018 บาท จากช่วงก่อนโควิดอยู่ที่ 1,478 บาท และ 3,219 บาท ซึ่งถือเป็นปีที่ดีเป็นพิเศษและสูงกว่าช่วงก่อนโควิด

สำหรับภาพในปี 2568 คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะกลับไปเท่าระดับก่อนโควิดที่ 39.8 ล้านคน เติบโตขึ้น 16-17% YOY โดยช่วงตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า หุ้นสายการบินจะน่าสนใจกว่าหุ้นสนามบิน แต่ภาพทั้งปีในปีหน้า หุ้นสนามบินจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า เนื่องจากประเมินหุ้นสายการบินมีความเสี่ยงด้านการแข่งขันรุนแรงขึ้น จากสายการบินต่าง ๆ จะทยอยเพิ่มเครื่องบินและที่นั่งเข้าไปมากขึ้น

“กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ ‘ซื้อ’ ทุกบริษัท แม้ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายปี 2568 แต่ยังมีแรงหนุนจากช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า จากไฮซีซั่นและราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้หุ้นมีโมเมนตัมบวกได้ต่อ”

ขณะที่ “ธีระพล อุดมเวศย์” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ประเมินทิศทางนักท่องเที่ยวในปีนี้น่าจะดีกว่าที่คาด ทั้งปีคาดแตะ 36-37 ล้านคน (จากต้นปีคาด 35 ล้านคน) ช่วงเดือน ก.ย. ตัวเลขนักท่องเที่ยวอาจจะซอฟต์ลง แต่ตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นช่วง China Golden Week และเริ่มเข้าไฮซีซั่น ทำให้ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ภาคท่องเที่ยวและกลุ่มสายการบินจะดีขึ้นได้ต่อเนื่อง

“ประเมินผลการดำเนินงานหลัก (Core Operation) ของ AAV ในงวดไตรมาส 3/2567 จะมีกำไรได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2567 จากที่ราคาน้ำมันลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จากค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว โดยประเมินเงินบาทที่แข็งค่าทุก 1 บาท จะหนุน AAV มีกำไรประมาณพันล้าน ซึ่งปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 3 บาท AAV มีกำไรแล้วกว่า 3 พันล้านบาท ขณะที่ BA ปีนี้คาดกำไรโต YOY”