นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 นี้คาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งเด่วนด้วยวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท จากวงเงินที่รัฐบาลมีภายใต้งบกลางอยู่ 8 หมื่นล้านบาท โดยน่าจะเป็นการเน้นกระตุ้นการอุปโภคบริโภค เช่น 1.การอัดฉีดเงินสู่มือประชาชนผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ 2.การหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 3.มาตรการเงินช่วยเกษตรผู้ประสบภัยแล้ง 4.การสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรองผ่านมาตรการลดภาษี 5.มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
นอกจากมาตรการเร่งด่วนแล้ว คาดว่าจะเห็นการออกมาตรการหลักตามนโยบายของรัฐบาลคือ 1.โครงการมารดาประชารัฐ 2.โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับ SME 3.การสนับสนุนปลูกกัญชา 4.การเร่งเข็นงานลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Action Plan 2559-2562) ที่ค้างท่ออยู่อีก 1.76 ล้านล้านบาท 5.การเร่งโครงการสำคัญ EEC และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- เปิด 10 อันดับทำเลที่ดินกรุงเทพฯ และปริมณฑล แพงสุด-ถูกสุด
โดยการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ รธน.มาตรา 143 ระบุไว้ชัดว่าสภาฯ ต้องพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน และ รธน.มาตรา 141 ถ้า พ.ร.บ.งบประมาณออกไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้ พ.ร.บ.งบประมาณปีก่อนหน้านั้น
ดังนั้นจึงเชื่อว่าการเบิกจ่ายงบประมาณจะไม่ล่าช้าหรือขาดตอนนานเกินไป ทั้งนี้งบประมาณปี 2563 รัฐบาลได้มีการตั้งไว้ที่ 3.2 ล้านล้านบาท ขาดดุลอยู่ที่ 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 14% ของงบประมาณปี 2563 ซึ่งยังต่ำกว่าเพดานงบขาดดุลกำหนดไว้ที่ 20% ของงบประจำปีทั้งหมด ซึ่งทำให้รัฐบาลใหม่สามารถใช้งบเพิ่มได้ประมาณ 1.9 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6% ของงบประมาณปี 2563