บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 6 มกราคม 2563
ปัจจัยพื้นฐาน
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บุคคลนามสกุลดัง “ภัทรประสิทธิ์” ถูกฟ้องล้มละลาย
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ +1.4% โดยทองคำได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐได้สังหารผู้นำทหารระดับสูงของอิหร่านในช่วงเช้าวันศุกร์ ขณะที่ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศกร้าวว่าพร้อมตอบโต้การกระทำของสหรัฐ นอกจากนี้ราคาทองคำในวันศุกร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐจาก ISM ที่ปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 47.2 ในเดือนธ.ค. แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2009 และหดตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นมาปิดตลาดในวันศุกร์ไม่ไกลจากระดับสูงสุดของปี 2019 ขณะที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังระอุต่อเนื่อง หลังจากเกิดเหตุขีปนาวุธ 2-3 ลูกโจมตีใส่เขต Green Zone ในกรุงแบกแดดของอิรักและบริเวณใกล้เคียงสถานทูตสหรัฐ ขณะที่มีการชักธงแดงบนยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคารานของอิหร่านเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งแสดงสัญลักษณ์ของการล้างแค้น ขณะที่ประธานธิบดีทรัมป์ขู่จะถล่มสถานที่สำคัญของอิหร่านจำนวน 52 แห่ง หากอิหร่านทำการโจมตีชาวอเมริกันหรือสถานที่ของสหรัฐ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า +1.5% และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,588.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย สำหรับวันนี้แนะนำเกาะติดสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิก
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,566-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงว่าราคาสามารถทรงตัวในระดับสูงหลังจากราคาทะยานขึ้นในช่วงเปิดตลาด แต่ความผันของราคาเพิ่มสูงขึ้นหลังจากมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ประเมินแนวต้านแรกบริเวณ 1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของช่วงเช้าวันนี้ หากผ่านได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,603 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจเข้าซื้อบริเวณ 1,566-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป 1,557-1,553 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,553 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำแบ่งปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่าน 1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
คำแนะนำ เน้นเก็งกำไรฝั่งซื้อโดยมีแนวรับบริเวณ 1,566-1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ความผันผวนของราคาเพิ่มขึ้นหลังจากราคาทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากรับความเสี่ยงได้น้อยอาจขายทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านโซน 1,589 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผ่านได้สามารถถือต่อ
