นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 2563 ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าโมบายแบงกิ้ง “A-Mobile” เพิ่มขึ้น เป็น 1.2 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้าอยู่ 8 แสนราย โดยคาดว่าวงเงินในการทำธุรกรรมจะเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่มีวงเงินในการทำธุรกรรมอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท และจะส่งผลให้มีลูกค้าเข้าไปใช้ A-Mobile เพิ่มขึ้น ประมาณ 40 ล้านครั้งต่อปี จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ 30 ล้านครั้งต่อปี
สำหรับสาเหตุที่ต้องการขยายฐานลูกค้าให้ใช้โมบายแบงกิ้งเพิ่มขึ้น เป็นเพราะว่าธนาคารต้องการลดต้นทุนการดำเนินงานเนื่องจากต้นทุนในการบริการผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเฉลี่ยถึง 30 บาทต่อรายต่อครั้ง ถือว่าต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่น A-Mobile ที่ช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยแล้วเหลือเพียง 1 บาทต่อรายต่อครั้ง ฉะนั้น ในปีบัญชี 2563 ธนาคารจึงต้องวางแผนการดำเนินงานในส่วนของช่องทางการให้บริการลูกค้าสมดุลมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารจะใช้แนวทางในการจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการแอปพลิเคชั่น A-Mobile เพิ่มขึ้น ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ในการทำธุรกรรมรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น อย่างเช่น เพิ่มช่องทางการซื้อสลาก และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-วอลเลต (e-Wallet) เป็นต้น
