คอลัมน์ เกาะติดหุ้นร้อน

– เปิดตลาดหุ้นต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา SET Index รูดลงไปค่อนข้างมาก จากความกังวลว่าไวรัสโควิด-19 จะกลับระบาดรอบสอง อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ดัชนีปรับฐานลงเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก เริ่มที่หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) โดยราคาหุ้นช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (15 มิ.ย.-15 พ.ค. 63) ปรับขึ้น 1.32% จาก 189.00 บาท มาอยู่ที่ 191.50 บาท หลังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากข่าวศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนมติบอร์ด กสทช. ส่งผลให้บริษัทไม่ต้องนำส่งรายได้ 7.2 พันล้านบาท ในช่วงระยะเวลาเยียวยาคลื่น 900 MHz

– ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 210.00 บาท/หุ้น โดยมองกระแสข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกในแง่บรรยากาศ (sentiment) การลงทุนจากการชนะคดีในชั้นศาลปกครองกลาง อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทไม่ต้องนำส่งรายได้มูลค่า 7.2 พันล้านบาทนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้ เนื่องจากบริษัทไม่เคยมีการตั้งสำรองหนี้สินในส่วนดังกล่าว

– ด้าน บล.ฟิลิปแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเหมาะสม 217.00 บาท โดยชี้ว่าแม้ผลของการพิจารณาจะยังไม่เป็นที่สิ้นสุด แต่ช่วงสั้นคาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นสะท้อนข่าวบวกดังกล่าว ทั้งนี้ หากประเมินตามมูลค่าเรียกร้อง เบื้องต้นคาดกระทบต่อราคาหุ้นราว 2.00-2.40 บาท

– ถัดมา บมจ.ช.การช่าง (CK) โดยราคาหุ้นช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (15 มิ.ย.-15 พ.ค. 63) ปรับขึ้น 25.64% จาก 15.60 บาท มาอยู่ที่ 19.60 บาท โดยนักวิเคราะห์ “วิจิตร อารยะพิศิษฐ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง และงบไตรมาส 2/63 คาดว่าจะมีกำไรเล็กน้อยจากเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทลูก บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) ราว 230 ล้านบาท

– ฟาก บล.หยวนต้าแนะนำ “ทยอยสะสม” ที่ 25.90 บาท หลังสถานการณ์กำไรจากเงินลงทุนเริ่มดีขึ้น หลังการปลดล็อก ส่งผลให้มียอดผู้ใช้บริการทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและทางด่วนเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้าสู่ช่วงหน้าฝนถือเป็นปัจจัยหนุนอีกแรง ซึ่งจะทำให้ผลกำไรเงินลงทุนในบริษัทย่อย ได้แก่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ฟื้นตัว

ส่วนไตรมาส 3/63 ยังมีเงินปันผลจาก TTW ราว 200 ล้านบาท อีกทั้งคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าของการขายซองประมูล TOR ของรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีม่วง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อบริษัทเพิ่มเติม