บลจ.กรุงศรี เปิดโผ 6 กองทุนเด่นน่าลงทุนหลังโควิด-19

กรุงศรีออโต้

บลจ.กรุงศรี เผยรายชื่อ 6 กองทุนเด่นน่าลงทุนหลังวิกฤตโควิด เคาะเป้า SET Index ปีนี้เคลื่อนไหวแถว 1,400 จุด เหตุดัชนีวิ่งกลับขึ้นมาจากแรงจากจุดต่ำสุดเดือน มี.ค. กดดันหุ้นไทยแพงต่างชาติเมินลงทุน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบทุกคนทั้งในแง่ความเป็นอยู่ สุขภาพ รวมถึงในแง่การลงทุนและการเงินอีกด้วย อย่างไรก็ดี หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย บลจ.กรุงศรีจึงจัดงานสัมมนาออนไลน์ “Meet Fund Managers 2020 – จัดพอร์ตการลงทุนหลังสถานการณ์โควิด-19” โดยแนะนำ 6 กองทุนเด่น ได้แก่

  • กองทุนเปิดกรุงศรีเวิล์ดเทคอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KFHTECH)
  • กรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้ (KFHEALTH)
  • กรุงศรีไชน่าเอแชร์อิควิตี้ (KFACHINA)
  • กรุงศรีเอเชียนอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KFHASIA)
  • กรุงศรีโกลด์เฮดจ์ (KF-HGOLD)
  • กองทุนเปิดกรุงศรีไดเวอร์ซิไฟด์อินคัม (KFDIVERSE)

นายวิพุธ เอื้ออานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยพบว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปรับลดลงทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,000 จุด ในช่วงเดือน มี.ค.63 จากต้นปีที่ 1,580 จุด หรือลดลงประมาณ 35% อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นพบว่า SET Index ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง โดยรอบนี้ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,450 จุด ต่ำกว่าต้นปีเพียง 8-9% ถือว่าปรับขึ้นได้ค่อนข้างเร็ว

ขณะที่โอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นต่อจากนี้ยังค่อนข้างจำกัด โดย บลจ.กรุงศรีคาดการณ์เป้า SET Index ปีนี้ที่จะเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,400 จุดบวกลบ เนื่องจากมูลค่าตลาด (Valuation) เริ่มแพงที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) 20.4 เท่า แพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศ TIP ได้แก่ ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ที่มีค่า P/E ที่ 17-18 เท่า เท่านั้น ดังนั้น โอกาสที่นักลงทุนต่างประเทศจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยยังเป็นไปได้ยาก

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเดือน เม.ย. -1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เดือน พ.ค. -1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบัน (MTD) -400 ล้านเหรียญสหรัฐ

“อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตราสารทุนไทยยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าสินทรัพย์อื่นๆ ในระยะกลางถึงยาวอยู่ จากอัตราดอกเบี้ยจากการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลที่น่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน แต่ด้วยความเสี่ยงที่อาจเผชิญได้ในระยะสั้น SET Index ปีนี้จึงอาจปรับขึ้นไม่หวือหวามากนัก” นายวิพุธ กล่าว

นายจาตุรันต์ สอนไว ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า กองทุนที่แนะนำ อาทิ กองทุนหุ้นเทคโนโลยี KFHTECH มีจุดเด่นตรงที่รับอานิสงส์จากกระแสใหม่ที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 อย่างกระแสทำงานจากบ้าน (Work from Home) อีกทั้งยังแนะนำกองทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ KFHEALTH ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสน้อย

ขณะที่กองทุนหุ้นจีน KFACHINA มีจุดเด่นที่สามารถจัดการกับการแพร่ระบาดโรคในประเทศได้ดี และแม้ว่าจะไม่เปิดประเทศแต่ความต้องการบริโภคภายในยังสูง ส่วนและกองทุนหุ้นเอเชีย KFHASIA เน้นลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพและเป็นประเทศเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ อาทิ ไต้หวันและเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังแนะนำลงทุนกองทุนทองคำ KF-HGOLD และกองทุน KFDIVERSE เพื่อกระขายความเสี่ยงของพอร์ต

“ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นค่อนข้างสูงก็จริงจากสภาพคล่องที่ล้นระบบ แต่เรายังแนะนำ ‘ค่อยๆ ทยอยเข้าสะสม’ และถึงแม้ความเสี่ยงตัวเลขผู้ติดเชื้อจะปูดขึ้นอีก แต่หากตลาดยังขึ้นต่อได้ด้วยสภาพคล่องส่วนเกิน เราก็ยังแนะนำให้เข้าลงทุน” นายจาตุรันต์ กล่าว