ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ประจำวันที่ 31 ก.ค.63 ปิดบวกที่ 1,328.53 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.97% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 61,281.13 ล้านบาท นำโดยกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,131.58 ล้านบาท และสถาบันซื้อสุทธิ 675.35 ล้านบาท ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 730.33 ล้านบาท และในประเทศขายสุทธิ 1,076.59 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด เปิดเผยว่า SET Index แกว่งผันผวน โดยช่วงเช้าปรับลดลงทดสอบจุดต่ำสุดที่ 1,303 จุด ใกล้เคียงกับแนวรับสำคัญที่ฝ่ายวิจัยประเมินเอาไว้ที่ 1,300 จุด ก่อนจะรีบาวด์กลับมาปิดบวกที่ 1,328.53 จุด หรือบวกขึ้นกว่า 12 จุด โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นนำตลาดมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มท่องเที่ยว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) เป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นได้ดีกว่าหุ้นขนาดกลางและเล็ก จึงคาดว่าเป็นแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่หนุนให้ตลาดหุ้นพลิกกลับมาเป็นบวกได้
อย่างไรก็ดี เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน การปรับขึ้นวันนี้จึงเป็นเพียงการปรับขึ้นเชิงเทคนิก (Technical Rebound) เท่านั้น หลังวานนี้ (30 ก.ค.) และช่วงเช้าวันนี้ปรับลดลงรุนแรง นอกจากนี้ SET Index ยังได้อานิสงส์เชิงบวกจากที่ตลาดหุ้นยุโรปพลิกกลับมาเป็นบวกเช่นกัน ขณะที่สัปดาห์หน้า เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบตลาด จึงคาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,300-1,340 จุด หรือมีโอกาสปรับขึ้นอีกจำกัด
ในส่วนของปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประกาศงบกำไรงวดไตรมาส 2/63 การประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ โดยเฉพาะดัชนี PMI รวมถึงการประชุมของธนาคารกลาง ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) มีนัดประชุมวันที่ 5 ส.ค.63
“ด้านกลยุทธ์การลงทุน ก่อนหน้านี้เราเคยแนะนำให้สะสมเมื่อดัชนีย่อตัวลงทดสอบแถวๆ 1,300 จุด ซึ่งใครที่เข้าสะสมไปแล้วก็ยังสามารถถือต่อได้ ส่วนคนที่ต้องการลงทุนเพิ่มให้เน้นลงทุนในกลุ่มที่งบไตรมาส 2 น่าจะออกมาดีเป็นหลัก เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนวราบ กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม เป็นต้น” นายวีะรวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นเด่น (Top Pick) ที่ฝ่ายวิจัยแนะนำ ได้แก่ AP ราคาเป้าหมาย 8.20 บาท SC 2.80 บาท CPF 40.00 บาท STGT 111.00 บาท DRT 6.60 บาท และ GUNKUL 3.80 บาท
