“อาคม” ชี้ปี’64 ลำบาก เล็งปรับโครงสร้างภาษีพยุงผู้ประกอบการ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

รมว.คลัง ชี้ปีนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน รับลำบากในปี 2564 เล็งปรับโครงสร้างภาษีพยุงผู้ประกอบการ พร้อมเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หนุนเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ หลังที่ผ่านมาออกมาตรการดูแลประชาชนช่วงโควิดแล้ว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปีนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน เนื่องจากประเทศไทยยังมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และฐานะการคลังยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนในปี 2564 จะลำบาก โดยเฉพาะผู้เสียภาษีซึ่งเป็นผู้ประกอบการ ที่ขาดรายได้จากปีนี้ แล้วจะต้องไปจ่ายภาษีในปีหน้า ดังนั้น ต้องปรับโครงสร้างภาษีเพื่อพยุงอุตสาหกรรม เพื่อให้โครงสร้างภาษีมีความสมดุล ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการวางแผน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ

“เราต้องปรับโครงสร้างภาษีเพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดวิกฤตก็จะมีการพิจารณาเช่นนี้ โดยตอนนี้ในพื้นที่อีอีซีให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจูงใจมากๆ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่างทั้งท่าเรือ สนามบินต่างๆ ในขณะที่บีโอไอ ก็มีมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลถึง 8 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในแผนที่จะมีการปรับโครงสร้างภาษีด้วย”

นอกจากนี้ จะต้องเร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องดูแล ซึ่งอาจจะใช้เงินจากการระดมทุนในตลาด หรือผ่านการกู้เงิน ซึ่งจะต้องเร่งรัดในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เม็ดเงินไหลลงระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย เพราะประชาชนเฝ้ารอ เช่น รถไฟฟ้าสายใหม่ๆ

นายอาคม กล่าวว่า แม้งบประมาณในการเยียวยาโควิด ซึ่งเงินส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณปกติ แม้งบปี 64 จะมาล่าช้าก็ตาม และอีกส่วนมาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน เกือบ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นเงินเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้ลงไปในระดับชาวบ้าน เพื่อสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการ ช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวแล้ว ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และมาตรการ “คนละครึ่ง” ให้ลงไปในระดับล่าง เพื่อให้คนมีความมั่นใจ

Advertisment

ทั้งนี้ ยังมีเงินมาจากรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีกำไร และเงินกู้ รวมถึงเงินกองทุนต่างๆ ที่แช่ในแบงก์ นำเงินไปทำโครงสร้างพื้นฐาน ภายหลังมาตรการป้องกันโควิดของไทยทำได้ดี และนำงบส่วนหนึ่งเอาไปใช้ในการสร้างความเข้มแข็งของสังคม และหากผลิตวัคซีนโควิดได้ผล จะเป็นประเทศแรกในกลุ่มกำลังพัฒนา จะนำไปสู่นโยบายของรัฐบาลที่อยากเห็นอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่อาจสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้